เลเซอร์

เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

หลายคนเคยฝันถึงขาที่เนียนใสไร้ขนโดยไม่ต้องโกนหรือแว็กซ์ซ้ำ ๆ เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse จึงกลายเป็นคำตอบยอดนิยมของชาวบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง เพราะใช้พลังงานเลเซอร์ช่วงคลื่น 1064 nm เจาะจงทำลายรากขนได้ลึก พร้อมปกป้องผิวด้านบนให้เรียบเนียน ไม่ระคายเคือง วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์

Long Pulse ND YAG เลเซอร์คือ

Long Pulse ND YAG เลเซอร์คือ

Long Pulse ND YAG เป็นเลเซอร์ Nd:YAG ที่ตั้งค่าความยาวพัลส์ยาวกว่าปกติ ทำให้พลังงานสะสมในรูขุมขนได้ต่อเนื่อง รากขนถูกทำลายลึกขึ้น ขณะที่เม็ดสีผิวไม่ดูดซับพลังงานมากเกินไป จึงลดความเสี่ยงไหม้ผิวสำหรับสีผิวคนเอเชีย ข้อดีหลัก ๆ ได้แก่

  1. ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว แม้ผิวสองสีหรือผิวคล้ำ

  2. กำจัดขนลึก ทะลุถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำลายเซลล์ต้นกำเนิดขน

  3. ลดเส้นเลือดฝอย คลื่น 1064 nm ยังช่วยหดเส้นเลือดฝอยจิ๋ว ทำให้ผิวดูสม่ำเสมอ

เลเซอร์กำจัดขนถาวร

เลเซอร์กำจัดขนถาวร

คำว่า ถาวร ในโลกเลเซอร์หมายถึงขนลดลงถาวรกว่า 80-90 % หลังจบคอร์ส และขึ้นช้ากว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด วิธีปฏิบัติเพื่อผลดีที่สุดมีดังนี้

  • ทำซ้ำ 6-8 ครั้ง เว้นทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อเก็บขนแต่ละวงจรชีวิต

  • งดถอน แว็กซ์ IPL อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนเริ่ม เพื่อไม่ให้รากขนหาย

  • โกนก่อนทำ เหลือความยาวขนน้อยกว่า 1 มม. พลังงานจะโฟกัสลงรากได้เต็มที่

  • ทาครีมกันแดด หลังทำ 2 สัปดาห์ เพื่อเลี่ยงผิวคล้ำเสีย

ผลลัพธ์หลังจบคอร์สจะคงอยู่ได้นานหลายปี หากขนอ่อนเริ่มกลับมาอาจทำทรีตเมนต์กระตุ้นปีละ 1-2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

ที่ Onewan Clinic เราใช้เครื่องแท้ผ่าน US FDA และ อย.ไทย ทีมแพทย์มีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี จึงควบคุมพลังงานได้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคน

  • เคสคุณเมย์ (อายุ 28) หลังทำ 4 ครั้ง ขนลดลง 75 % ผิวเรียบไม่มีหนังไก่

  • เคสคุณเบส (อายุ 34) ขนหนาและเส้นเลือดฝอยชัด หลังทำครบคอร์ส ผิวดูสว่างขึ้น 1 เฉด เส้นเลือดฝอยจาง

  • เคสคุณธีร์ (อายุ 25, ผิวคล้ำ) ไม่เกิดรอยไหม้หรือ PIH แม้ค่าเมลานินสูง ผลลัพธ์ลดขน 85 %

เสียงตอบรับส่วนใหญ่ประทับใจในความสะดวก—ใช้เวลาทำต่อขาเพียง 15-20 นาที และรู้สึกเจ็บน้อยกว่าการแว็กซ์มาก

Q&A เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

Q : เจ็บไหม ต้องใช้ยาชาหรือเปล่า ?

A : ความรู้สึกคล้ายดีดหนังยางเบา ๆ บางคนไม่ต้องใช้ยาชา หากผิวไวแพทย์อาจทาครีมชาล่วงหน้า 30 นาที

Q : ทำกี่ครั้งจึงเห็นผล ?

A : เฉลี่ย 6-8 ครั้ง โดยเห็นผลลดลงทีละ 15-20 % ต่อครั้ง ขึ้นกับความหนาแน่นขนและฮอร์โมนของแต่ละคน

Q : ผิวหนังไก่จะหายไหม ?

A : เมื่อรากขนถูกทำลาย รูขุมขนยุบลง ผิวจะเรียบเนียนขึ้น หนังไก่จึงจางลงอย่างชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนแรก

สรุป เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse คือทางเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลยาวนานที่สุดในตอนนี้ ด้วยคลื่น 1064 nm ที่ออกแบบมาเพื่อลดขนและถนอมผิวชาวเอเชีย หนึ่งคอร์สช่วยให้ขนลดลงสูงสุด 90 % พร้อมผิวขาสวยเรียบไม่เป็นหนังไก่ หากคุณกำลังมองหาคอร์สเลเซอร์กำจัดขนถาวรในบุรีรัมย์ Onewan Clinic พร้อมให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องเลเซอร์มาตรฐานสากล จองคิววันนี้เพื่อสัมผัสขาเนียนใสไร้ขนได้อย่างมั่นใจ

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

รักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์

รักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์

รักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์

รักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์

หลายคนกังวลกับเส้นเลือดฝอยแดงหรือม่วงตามใบหน้า ขา หรือจุดอื่น ๆ เพราะทำให้ผิวดูไม่สม่ำเสมอและลดความมั่นใจ ปัจจุบัน การรักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์ โดยเฉพาะเทคโนโลยี Long Pulse ND YAG เลเซอร์ เป็นทางเลือกยอดนิยม เนื่องจากสามารถจี้ปิดหลอดเลือดได้อย่างแม่นยำ ลดรอยแดงได้รวดเร็ว แผลเล็ก ฟื้นตัวไว และลดโอกาสเกิดซ้ำ เหมาะกับทุกสีผิว แม้ผิวคล้ำก็ทำได้ปลอดภัย วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์

Long Pulse ND YAG เลเซอร์คือ

Long Pulse ND YAG เลเซอร์คือ

Long Pulse ND YAG (1064 nm) เป็นเลเซอร์คลื่นแสงความยาวคลื่นสูงที่เจาะลึกถึงชั้นหลอดเลือด เป้าหมายคือฮีโมโกลบิน เมื่อแสงถูกดูดซับ จะเกิดความร้อนจี้หลอดเลือดให้หดตัวและยุบลง โดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง ข้อดีหลัก ๆ ได้แก่

  1. เจาะจงหลอดเลือด ลดโอกาสผิวไหม้หรือรอยดำหลังทำ

  2. จุดพลังงานเป็นแพลส์ยาว (Long Pulse) ควบคุมความร้อนได้ดี ลดเจ็บ ช่วยให้ผิวเย็นเร็ว

  3. เหมาะกับหลายปัญหา ทั้งเส้นเลือดฝอย แผลเป็นสีแดง จุดแดงหลังสิว ไปจนถึงการกำจัดขนถาวร

Onewan Clinic ใช้เครื่องมาตรฐานผ่าน US FDA ปรับพลังงานตามสภาพผิวแต่ละคน มีระบบทำความเย็นปลายหัวเลเซอร์ (Contact Cooling) จึงสบายผิว ลดอาการบวมแดงหลังทำได้ดี

เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

เลเซอร์ลดขนขา Long Pulse

นอกจากเคลียร์เส้นเลือดฝอย Long Pulse ND YAG ยังโดดเด่นด้าน เลเซอร์ลดขนขา เพราะลำแสงทะลุถึงรากขนลึก 3–5 มม. กระทบเมลานินในราก ทำให้รากขนฝ่อและหลุดร่วงตามวงจรเส้นขน โดยเฉลี่ยต้องทำ 4–6 ครั้ง ระยะห่าง 4–6 สัปดาห์

จุดเด่น

  • เห็นผลดีแม้ขนเส้นหนา สีเข้ม

  • ลดปัญหาตุ่มหนังไก่และขนคุด ขาเรียบเนียนขึ้น

  • ปลอดภัยกับผิวสองสี-ผิวคล้ำ เพราะพลังงานโฟกัสเฉพาะรากขน ไม่ทำให้ผิวไหม้ง่าย

คำแนะนำหลังทำเลเซอร์ลดขน งดแวกซ์หรือถอน 2 สัปดาห์ ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการขัดผิวแรง ๆ เพื่อให้รูขุมขนปิดสนิทเร็วขึ้น

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

“ก่อนทำเส้นเลือดฝอยที่แก้มชัดมาก แต่งหน้าไม่เคยปกปิด แค่ 2 ครั้ง รอยแดงจางไปเกือบหมด ผิวเรียบขึ้นเยอะ” — คุณจูน อายุ 32

“ขนหน้าแข้งเข้มจนใส่กระโปรงสั้นไม่มั่นใจ พอทำครบ 5 ครั้ง ขนบางลงมาก ผิวไม่เป็นตุ่ม หนังไก้หายเลย” — คุณฝน อายุ 26

“กังวลเรื่องเจ็บ แต่เครื่องที่คลินิกมีระบบเป่าลมเย็น พอไหวนะ ใช้เวลาเร็ว ไม่ต้องพักงาน” — คุณเม อายุ 29

รีวิวทั้งหมดนี้ยืนยันว่า Long Pulse ND YAG สามารถจัดการเส้นเลือดฝอยและขนที่ลึกได้ดี เห็นผลไวและฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับคนเวลาน้อย ต้องการความเปลี่ยนแปลงชัดเจน

Q&A รักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์

Q : รักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์เจ็บไหม

A : ขณะยิงจะรู้สึกอุ่น ๆ เหมือนโดนดีดหนังยางเบา ๆ คลินิกจะทายาชาหรือใช้ระบบทำความเย็นช่วย จึงสบายผิวกว่าที่คิด

Q : ต้องทำกี่ครั้งถึงจะหาย

A : เส้นเลือดฝอยบางตำแหน่งดีขึ้นทันทีหลังทำ 60-70% โดยทั่วไปแนะนำ 2–4 ครั้ง ขึ้นกับความกว้างและความลึกของหลอดเลือด

Q : หลังทำเลเซอร์ต้องดูแลยังไง

A : ประคบเย็น 10 นาที ทาครีมลดการอักเสบ หลีกเลี่ยงแดดจัด 7 วัน ทากันแดด SPF 50+ และงดสครับผิวจนกว่ารอยแดงจะหาย

สรุป รักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์

การรักษาเส้นเลือดฝอยด้วยเลเซอร์ โดยใช้ Long Pulse ND YAG เลเซอร์ เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน แถมยังตอบโจทย์กำจัดขนถาวรบนขาได้ภายในเครื่องเดียว หากคุณกำลังมองหาคลินิกความงามบุรีรัมย์ที่ได้มาตรฐาน แพทย์ประสบการณ์สูง และรีวิวแน่น ลองปรึกษา Onewan Clinic ได้เลย ที่นี่มีโปรแกรมประเมินผิวฟรี พร้อมแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ช่วยให้คุณก้าวสู่ผิวเรียบเนียนไร้รอยแดงและขนกวนใจได้อย่างมั่นใจในทุกโอกาส

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

การทำเลเซอร์สิวที่วันวานคลินิกถือเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคลินิกมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงและใช้อุปกรณ์เลเซอร์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน การทำเลเซอร์สามารถช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง รอยดำ และกระตุ้นการฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกขั้นตอนจะเริ่มจากการประเมินปัญหาผิวหน้าอย่างละเอียดเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

วันวานคลินิกให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้า โดยใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลและปฏิบัติตามแนวทางการรักษาที่เคร่งครัด ทั้งนี้ การทำเลเซอร์สิวอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ผิวแดงหรือระคายเคืองหลังการรักษา ซึ่งมักจะหายไปในไม่กี่วัน แพทย์ที่คลินิกจะให้คำแนะนำในการดูแลผิวหลังการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและการป้องกันแสงแดด เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

การเลือกเลเซอร์สำหรับรักษาสิวขึ้นอยู่กับประเภทของปัญหาสิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล เนื่องจากสิวมีหลายประเภท เช่น สิวอักเสบ รอยแดง รอยดำ และรอยแผลเป็น ดังนั้น การเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเลเซอร์ที่นิยมใช้ในการรักษาสิว:
  1. เลเซอร์ลดการอักเสบและแบคทีเรียที่ก่อสิว (PDT – Photodynamic Therapy)
    เหมาะสำหรับสิวอักเสบหรือสิวที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยเลเซอร์ชนิดนี้ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน และกำจัดแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว

  2. เลเซอร์ลดรอยแดงจากสิว (Vascular Laser)
    เช่น Vbeam Laser ช่วยลดรอยแดงจากสิวหรือรอยแผลอักเสบ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและลดการอักเสบในผิวชั้นลึก

  3. เลเซอร์ลดรอยดำจากสิว (Q-Switched Nd:YAG Laser)
    ช่วยลดรอยดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวเพื่อฟื้นฟูสภาพผิว

  4. เลเซอร์รักษารอยแผลเป็นจากสิว (Fractional Laser)
    เช่น Fraxel Laser หรือ CO2 Laser ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวชั้นลึกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยแผลเป็นจากสิวดูจางลง

  5. เลเซอร์กระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิว (IPL – Intense Pulsed Light)
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างและผิวหมองคล้ำ ช่วยปรับสภาพผิวโดยรวมให้กระจ่างใสขึ้น

ระยะเวลาพักฟื้นหลังเลเซอร์

ระยะเวลาพักฟื้นหลังการทำเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้และลักษณะของปัญหาผิวที่รักษา โดยทั่วไปแล้ว การฟื้นตัวหลังการทำเลเซอร์สิวมักจะใช้เวลาหลายวันถึงสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการรักษาและวิธีที่ร่างกายตอบสนองต่อการรักษา ตัวอย่างของระยะเวลาพักฟื้นหลังการทำเลเซอร์ที่นิยม:

  1. เลเซอร์ลดการอักเสบและแบคทีเรีย (เช่น PDT):
    หลังการรักษาผิวอาจมีอาการแดงและบวม ซึ่งจะหายไปภายใน 1-2 วัน คุณสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดดอย่างเคร่งครัด

  2. เลเซอร์ลดรอยแดงและรอยดำ (เช่น Vascular Laser, Q-Switched Nd:YAG Laser):
    ผิวอาจจะมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังการรักษา ซึ่งจะหายไปภายใน 2-3 วัน บางครั้งอาจมีอาการคล้ายแผลพุพอง แต่จะหายไปภายในไม่กี่วัน

  3. เลเซอร์กระชับรูขุมขนและปรับผิว (เช่น IPL):
    หลังการทำเลเซอร์ด้วย IPL อาจมีอาการแดงและระคายเคืองในผิวที่รักษา ซึ่งมักจะหายไปภายใน 1-2 วัน ผิวอาจรู้สึกแห้งหรือลอกเล็กน้อยในช่วง 1-2 สัปดาห์

  4. เลเซอร์รักษารอยแผลเป็น (เช่น Fractional Laser, CO2 Laser):
    สำหรับเลเซอร์ที่มีความรุนแรงสูง เช่น CO2 หรือ Fractional Laser การฟื้นตัวอาจใช้เวลานานกว่า โดยอาจมีอาการบวมและผิวลอกภายใน 3-5 วัน และในบางกรณี อาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูถึง 1-2 สัปดาห์เพื่อให้ผิวหายดีและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โดยทั่วไปแล้วการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังการรักษา หากคุณดูแลผิวอย่างถูกต้อง เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดด การใช้ครีมบำรุงที่แนะนำจากแพทย์ และการไม่สัมผัสหรือเกาตามบริเวณที่ทำเลเซอร์ ก็จะช่วยให้การฟื้นฟูผิวเป็นไปได้เร็วขึ้น

เลเซอร์ทำให้ผิวบางจริงไหม

การทำเลเซอร์สามารถทำให้ผิวบางได้ในบางกรณี แต่ไม่ใช่ทุกประเภทของเลเซอร์ที่ทำให้เกิดผลกระทบนี้ หากทำการรักษาด้วยเลเซอร์โดยผู้เชี่ยวชาญและตามคำแนะนำที่เหมาะสม ผิวจะได้รับการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ

เลเซอร์บางชนิดที่อาจทำให้ผิวบางลง

  1. เลเซอร์ที่มีความแรงสูง เช่น CO2 Laser หรือ Fractional CO2 Laser ซึ่งทำการขจัดชั้นผิวบางส่วนออกมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ อาจทำให้ผิวบางลงชั่วคราวในช่วงระหว่างกระบวนการฟื้นฟู ผิวจะกลับมาหนาและแข็งแรงขึ้นเมื่อกระบวนการสร้างคอลลาเจนเสร็จสมบูรณ์
  2. เลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาสิวหรือรอยแผลเป็น (เช่น Q-Switched Nd:YAG Laser) สามารถกระตุ้นให้ผิวฟื้นฟูได้ดี แต่หากทำบ่อยครั้งหรือไม่ได้ดูแลอย่างดีอาจทำให้ผิวบางลง

การดูแลหลังการทำเลเซอร์
การดูแลผิวหลังการทำเลเซอร์เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาผิวบางลง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะสมกับผิวที่ทำเลเซอร์ก็จะช่วยให้ผิวแข็งแรงและฟื้นตัวได้ดี

การทำเลเซอร์ที่ได้รับการดูแลอย่างดีและทำในปริมาณที่เหมาะสมจะไม่ทำให้ผิวบางลงในระยะยาว แต่ถ้าทำการรักษาที่ไม่ถูกวิธีหรือมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดปัญหาผิวบางได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ

Q&A เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

Q : เลเซอร์สิวจะทำให้ผิวบางไหม?

A : เลเซอร์บางชนิดอาจทำให้ผิวบางลงชั่วคราว เช่น เลเซอร์ CO2 หรือ Fractional Laser ที่ขจัดชั้นผิวบางส่วนออกไป แต่ผิวจะฟื้นฟูและหนาขึ้นได้เองเมื่อกระบวนการสร้างคอลลาเจนเสร็จสมบูรณ์ การดูแลผิวหลังการทำเลเซอร์ก็สำคัญเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาผิวบาง

Q : หลังทำเลเซอร์สิวต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?

A : ระยะเวลาพักฟื้นหลังการทำเลเซอร์สิวขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ โดยทั่วไปจะมีอาการแดงหรือระคายเคืองในช่วง 1-2 วัน และผิวจะฟื้นตัวเต็มที่ในเวลา 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษา

Q : การทำเลเซอร์สิวเจ็บหรือไม่?

A : การทำเลเซอร์สิวมักจะไม่เจ็บมาก แต่บางคนอาจรู้สึกแสบหรือคันเล็กน้อยในระหว่างการทำเลเซอร์ หลังจากนั้นอาจรู้สึกระคายเคืองหรืออุ่นที่ผิว ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปในไม่กี่วัน

สรุป เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

การทำเลเซอร์ สิว เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาสิว เมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยเลเซอร์จะช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง รอยดำ และกระตุ้นการฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน การเลือกประเภทเลเซอร์ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับประเภทของสิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล เช่น เลเซอร์ลดการอักเสบ, เลเซอร์ลดรอยดำหรือรอยแดง, และเลเซอร์รักษารอยแผลเป็น

การทำเลเซอร์สิวอาจทำให้ผิวบางได้ในบางกรณี โดยเฉพาะหากใช้เลเซอร์ที่มีความแรงสูง แต่ผิวจะฟื้นฟูและหนาขึ้นเมื่อกระบวนการสร้างคอลลาเจนเสร็จสมบูรณ์ การดูแลหลังการทำเลเซอร์ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดดและการใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นและป้องกันปัญหาผิวบาง

ระยะเวลาพักฟื้นหลังการทำเลเซอร์สิวจะขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ โดยทั่วไปอาจมีอาการแดงหรือระคายเคืองในช่วง 1-2 วัน และผิวจะฟื้นตัวเต็มที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ การทำเลเซอร์สิวมักไม่เจ็บมาก แต่บางคนอาจรู้สึกแสบหรือคันเล็กน้อย และอาจต้องทำประมาณ 3-5 ครั้งเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

หากคุณกำลังมองหาการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ในสถานที่ที่น่าเชื่อถือ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความปลอดภัยและคุณภาพการบริการค่ะ 😊

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

การทำเลเซอร์สิวเพื่อรักษาปัญหาสิวและรอยสิว เช่น รอยแดง รอยดำ หรือรอยหลุมสิว จำเป็นต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยจำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน หากเป็นปัญหาสิวอักเสบหรือรอยแดงมักจะต้องทำประมาณ 3–5 ครั้งเพื่อให้สีผิวเรียบเนียนขึ้น แต่หากเป็นรอยดำหรือหลุมสิวที่ลึกอาจต้องใช้เวลาในการรักษามากกว่า 5–10 ครั้งหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ชนิดของเลเซอร์ที่เลือกใช้ก็ส่งผลต่อจำนวนครั้งและระยะเวลาที่ต้องรักษา เช่น หากใช้เลเซอร์ลดรอยแดงหรือรอยดำประเภท IPL หรือ VBeam มักต้องทำทุก 2–4 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นเลเซอร์ที่ใช้รักษาหลุมสิว เช่น Fractional CO2 หรือ Erbium YAG จะต้องเว้นระยะห่างระหว่างครั้งประมาณ 1–2 เดือน เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวและสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ นอกจากนี้ การตอบสนองของผิวต่อการรักษายังเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดจำนวนครั้งที่ต้องทำ บางคนอาจเห็นผลชัดเจนหลังทำเพียงไม่กี่ครั้ง ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้เวลานานขึ้นเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสม ระยะเวลาในการทำ และการดูแลผิวหลังการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์ เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม จะช่วยเสริมให้ผลลัพธ์จากการทำเลเซอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

การเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาสิวขึ้นอยู่กับประเภทของปัญหาสิวที่ต้องการแก้ไข เช่น สิวอักเสบ รอยแดง รอยดำ หรือหลุมสิว นี่คือตัวเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละปัญหา:

1. เลเซอร์ลดสิวอักเสบ

  • IPL (Intense Pulsed Light): ช่วยลดการอักเสบของสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน และควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว

  • Blue Light Therapy: เน้นฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว ลดการอักเสบอย่างมีประสิทธิภาพ

2. เลเซอร์ลดรอยแดง

  • VBeam Laser: เป็นเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดรอยแดงจากสิว ลดการอักเสบ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

  • KTP Laser: ช่วยรักษารอยแดงและรอยเส้นเลือดฝอยใต้ผิว

3. เลเซอร์ลดรอยดำจากสิว

  • Q-Switched Nd:YAG Laser: ช่วยจัดการเม็ดสีส่วนเกิน ลดรอยดำ และปรับสีผิวให้กระจ่างใส

  • Pico Laser: เทคโนโลยีที่ทันสมัย ลดรอยดำและเม็ดสีอย่างรวดเร็วและอ่อนโยนต่อผิว

4. เลเซอร์รักษาหลุมสิว

  • Fractional CO2 Laser: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูหลุมสิวลึก ปรับผิวให้เรียบเนียน

  • Erbium YAG Laser: ทางเลือกที่อ่อนโยนกว่า Fractional CO2 ช่วยลดหลุมสิวโดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

  • RF Microneedling (เช่น Morpheus8): ผสมผสานคลื่นวิทยุกับการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อปรับผิวให้เนียนละเอียด

เลเซอร์กระชับผิวหน้า

เลเซอร์กระชับผิวหน้า

เลเซอร์กระชับผิวหน้าเป็นวิธีการที่ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอย และทำให้ผิวดูกระชับเรียบเนียนขึ้น โดยกระบวนการนี้ใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยบาง ๆ ที่ไม่ต้องการการผ่าตัด ตัวเลือกเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมสำหรับกระชับผิวหน้า ได้แก่ Thermage, Ulthera, Fractional CO2 Laser, และ RF Microneedling โดย Thermage และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่เน้นการใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอยได้ดี ส่วน Fractional CO2 Laser จะช่วยฟื้นฟูผิวชั้นบนและกระตุ้นคอลลาเจนในเวลาเดียวกัน สำหรับ RF Microneedling ผสมผสานการทำงานของคลื่นวิทยุกับการกระตุ้นผิวด้วยเข็มเล็ก ๆ เพื่อช่วยกระชับและปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคน และการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่นานและป้องกันปัญหาผิวในอนาคต

เลเซอร์เพื่อผิวใส

เลเซอร์เพื่อผิวใส

เลเซอร์เพื่อผิวใสเป็นการฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบเนียน กระจ่างใส และลดปัญหาผิวที่เกิดจากเม็ดสีส่วนเกิน เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสิว รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อปรับผิวให้เรียบเนียนและสุขภาพดีขึ้น เลเซอร์ที่นิยมสำหรับผิวใส ได้แก่ IPL (Intense Pulsed Light) ที่ช่วยลดเม็ดสีส่วนเกินและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ, Q-Switched Nd:YAG Laser ที่มีประสิทธิภาพในการลดรอยดำ ฝ้า และกระ พร้อมกระตุ้นให้ผิวดูกระจ่างใส และ Pico Laser ที่เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความแม่นยำสูง ช่วยลดปัญหาเม็ดสีได้ลึกและเร็วขึ้นโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน นอกจากนี้ การใช้เลเซอร์ชนิด Fractional Laser ก็ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าโดยรวม ลดรอยหลุมสิวและปรับพื้นผิวให้เนียนละเอียด ทั้งนี้ เลเซอร์เพื่อผิวใสเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูสดใสอย่างรวดเร็ว โดยควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคน และควรดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์ เช่น การทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวคงความกระจ่างใสยาวนาน

Q&A เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

Q : เลเซอร์ช่วยให้ผิวใสได้อย่างไร?

A : เลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดเม็ดสีส่วนเกินในผิว เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงรอยแดงและรอยดำจากสิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Q : เลเซอร์ชนิดไหนเหมาะสำหรับผิวใส?

A : เลเซอร์ที่นิยมสำหรับผิวใส ได้แก่ IPL, Q-Switched Nd:YAG Laser และ Pico Laser แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะในการลดเม็ดสี ปรับสีผิว และฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี

Q : ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

A : จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยปกติ 3–5 ครั้งจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจน แต่บางคนอาจต้องทำเพิ่มเพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์

สรุป เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

เลเซอร์เพื่อผิวใสช่วยลดปัญหาเม็ดสีส่วนเกิน เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดง รอยดำจากสิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อปรับผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส เลเซอร์ที่นิยมได้แก่ IPL, Q-Switched Nd:YAG, Pico Laser และ Fractional Laser โดยจำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับปัญหาผิว ปกติเห็นผลชัดเจนใน 3–5 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานหากดูแลผิวอย่างเหมาะสม หลังทำควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด และใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน การปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการรักษาจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดได้ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

การเลือกเลเซอร์สำหรับรักษาสิวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยรวมถึงสภาพผิวและประเภทของปัญหาที่ต้องการจัดการ เลเซอร์ CO2 Fractional เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการรักษารอยแผลเป็นจากสิวที่ลึก เพราะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เลเซอร์ Nd:YAG ใช้เพื่อลดการอักเสบของสิวและยังช่วยลดการสร้างน้ำมันบนใบหน้า ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบ เลเซอร์ Pulsed Dye มุ่งเน้นไปที่การรักษารอยแดงและรอยหลุมสิว ช่วยลดรอยแดงและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เลเซอร์ Erbium YAG เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลอกผิวเพื่อลดรอยด่างดำและรอยแผลเป็นจากสิว ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น ด้วยความแตกต่างในแต่ละชนิดของเลเซอร์ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ได้ที่วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์

เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

เลเซอร์สิวต้องทำกี่ครั้ง

การทำเลเซอร์สิวต้องทำจำนวนครั้งขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ ปัญหาสิวที่ต้องการแก้ไข และสภาพผิวของแต่ละคน โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำจำนวนครั้งดังนี้:

  1. เลเซอร์ลดการอักเสบของสิว (เช่น Nd:YAG, Pulsed Dye):
    ต้องทำประมาณ 3-6 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว

  2. เลเซอร์รักษารอยแผลเป็นจากสิว (เช่น CO2 Fractional, Erbium YAG):
    ปกติทำ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 1-2 เดือนต่อครั้ง เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่

  3. เลเซอร์ลดรอยแดงและรอยดำจากสิว:
    ใช้ประมาณ 2-4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิว

ในบางกรณีอาจต้องการการรักษาเพิ่มเติมเพื่อรักษาผลลัพธ์ หรือเมื่อมีสิวเกิดขึ้นใหม่ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

เลเซอร์เพื่อผิวใส

เลเซอร์เพื่อผิวใส

การทำเลเซอร์เพื่อผิวใสเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยเลเซอร์ที่มักใช้เพื่อผิวใสมีหลากหลายประเภท แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเด่นที่เหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน เช่น:
  1. เลเซอร์ Q-Switched Nd:YAG
    เหมาะสำหรับการลดเม็ดสีส่วนเกิน เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ และช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส

  2. เลเซอร์ PicoSure หรือ PicoWay
    เป็นเลเซอร์รุ่นใหม่ที่มีพลังงานสูงและความแม่นยำในการทำลายเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้ช่วยลดจุดด่างดำและกระชับรูขุมขนได้ดี

  3. เลเซอร์ Fractional CO2 หรือ Erbium YAG
    เน้นการฟื้นฟูผิวโดยการกระตุ้นคอลลาเจน และลอกเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออก ช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใส

  4. IPL (Intense Pulsed Light)
    แม้ไม่ใช่เลเซอร์โดยตรง แต่เป็นเทคโนโลยีแสงที่ช่วยลดรอยแดง รอยดำ และกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

การเลือกเลเซอร์เพื่อผิวใสขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายที่ต้องการ การทำเลเซอร์ประเภทนี้มักต้องทำประมาณ 3-6 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

การทำเลเซอร์รักษาสิวถือว่าปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน แต่ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และการดูแลผิวหลังการรักษา ต่อไปนี้คือข้อมูลที่ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของเลเซอร์สิว:
  1. เทคโนโลยีที่ได้รับการรับรอง
    เลเซอร์ที่ใช้รักษาสิว เช่น Nd:YAG, Pulsed Dye, หรือ CO2 Fractional มักได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น FDA (องค์การอาหารและยา) เพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

  2. การประเมินผิวก่อนการรักษา
    ก่อนทำเลเซอร์ แพทย์จะตรวจสภาพผิวและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและประเภทผิวของคุณ เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

  3. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
    แม้เลเซอร์จะปลอดภัย แต่บางครั้งอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยแดง ช้ำ หรือผิวลอก ซึ่งมักหายเองภายในไม่กี่วัน หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

  4. การดูแลหลังทำเลเซอร์
    การดูแลผิวหลังเลเซอร์เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิวในช่วงแรก เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงและช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น

ดังนั้น เลเซอร์รักษาสิวปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ หากคุณมีโรคประจำตัวหรือสภาพผิวที่บอบบาง ควรแจ้งแพทย์เพื่อปรับวิธีการรักษาให้เหมาะสม ทั้งนี้ควรเลือกสถานที่ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานเพื่อความมั่นใจสูงสุด

Q&A เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

Q : เลเซอร์รักษาสิวทำงานอย่างไร?

A : เลเซอร์ช่วยลดสิวโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว ลดการอักเสบ ควบคุมการผลิตน้ำมันใต้ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูผิว

Q : เลเซอร์รักษาสิวปลอดภัยหรือไม่?

A : ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยแดงหรือผิวลอก ซึ่งมักหายเองในไม่กี่วัน

Q : ต้องทำเลเซอร์กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

A : ปกติแล้วต้องทำประมาณ 3-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัญหาสิวและประเภทของเลเซอร์ โดยเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง

สรุป เลเซอร์แบบไหนดีสำหรับสิว

เลเซอร์รักษาสิว เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการลดสิว รอยแผลเป็น และปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบ รอยดำ หรือรอยแดงจากสิว โดยทั่วไปจะต้องทำประมาณ 3-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและประเภทของเลเซอร์ เช่น CO2 Fractional, Nd:YAG, หรือ Pulsed Dye การดูแลหลังทำเลเซอร์ เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผิวฟื้นตัวและผลลัพธ์ยั่งยืน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

การทานอาหารช่วยลดสิว

การทานอาหารช่วยลดสิว

การทานอาหารช่วยลดสิว

การทานอาหารช่วยลดสิว

การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมมีส่วนช่วยลดปัญหาสิวได้อย่างมาก เนื่องจากอาหารบางชนิดสามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวหนังมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิวได้ ในทางตรงกันข้าม การบริโภคผักและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยในการดูดซับสารพิษในลำไส้ และลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อผิวพรรณ การเลือกรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาน้ำเย็นและเมล็ดแฟลกซ์ก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการลดการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของสิว นอกจากนี้ อาหารที่มีสังกะสีสูงอย่างเมล็ดฟักทองและธัญพืชก็ช่วยในการควบคุมน้ำมันบนผิวหน้า การดื่มน้ำเพียงพอยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวสดใสและขับของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขนที่อาจนำไปสู่การเกิดสิวได้ นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารทอดที่สามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันและการอักเสบของผิวยังเป็นวิธีที่ดีในการช่วยควบคุมและลดการเกิดสิว การดูแลผิวพร้อมกับการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คุณจัดการกับปัญหาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผิวที่สุขภาพดีได้ในระยะยาว ได้ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์

โปรแกรมรักษาสิว

โปรแกรมรักษาสิว

การรักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพควรรวมการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อช่วยให้ผิวสุขภาพดี การเริ่มต้นด้วยการประเมินสภาพผิวจากแพทย์ผิวหนังจะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทของสิวและสาเหตุที่อาจเกิดขึ้น แพทย์จะสามารถแนะนำการรักษาที่เหมาะสมซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยาหรือการทำความสะอาดผิวในแบบต่างๆ การทำความสะอาดผิวอย่างเหมาะสมเป็นประจำทุกวันโดยการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับผิวแพ้ง่ายจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันที่สะสมบนผิวหน้า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเช่นเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์หรือกรดซาลิไซลิกสามารถช่วยลดการอักเสบและการติดเชื้อของสิวได้ นอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว เช่น อาหารที่มีไฟเบอร์สูง ผักผลไม้ และการหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นสิวเช่นอาหารมัน อาหารทอด และของหวาน จะช่วยในการควบคุมสิวจากภายใน การดื่มน้ำเพียงพอและการนอนหลับที่เพียงพอก็เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสิวเช่นกันเพราะการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวได้ดียิ่งขึ้น การปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดทุกวันยังเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันความเสียหายจากแสง UV ซึ่งอาจทำให้สิวแย่ลง ด้วยการติดตามผลการรักษากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอและการปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถควบคุมปัญหาสิวและมีผิวที่สุขภาพดีได้ในระยะยาว

หน้าหมองคล้ำจากสิว

หน้าหมองคล้ำจากสิว

หน้าหมองคล้ำจากสิวเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยหลังจากการรักษาสิว ซึ่งเกิดจากการอักเสบที่ทำให้ผิวหนังผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป มีหลายวิธีในการดูแลและรักษาปัญหานี้ให้ดีขึ้น:
  1. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมเพื่อลดเม็ดสี เช่น วิตามิน C, ไนอาซินาไมด์ (วิตามิน B3), กรดกลายโคลิก, หรือสารสกัดจากลูกพรุน ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

  2. การใช้ครีมกันแดด การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการได้รับแสงแดดมากเกินไปสามารถกระตุ้นให้เกิดเม็ดสีเพิ่มขึ้นได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปทุกวันแม้ในวันที่มีอากาศครึ้มหรือไม่ออกจากบ้าน

  3. การใช้สารพอกผิวหรือเปลือกเคมี (Chemical Peels) การรักษานี้ช่วยให้ชั้นผิวที่มีเม็ดสีมากถูกลอกออก ซึ่งจะทำให้ผิวใหม่ที่สว่างและสม่ำเสมอกับผิวปกติขึ้นมา

  4. การรักษาด้วยเลเซอร์หรือ IPL การรักษาด้วยแสงเลเซอร์หรือแสงพัลส์แรงสูง (Intense Pulsed Light) สามารถลดเม็ดสีที่ผิดปกติบนผิวหนังได้ ช่วยให้ผิวหน้าที่มีปัญหาเกี่ยวกับสีผิวไม่สม่ำเสมอกลับมาสม่ำเสมอขึ้น

  5. การดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ การล้างหน้าอย่างอ่อนโยน การทามอยส์เจอไรเซอร์ และการทานอาหารที่ดีต่อผิวจะช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรง ลดโอกาสที่ผิวจะหมองคล้ำจากสิวในอนาคต

การปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเพื่อหารือเกี่ยวกับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาพผิวของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ โดยอาจจะรวมหลายวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิว เรียกว่ารอยด่างแดงหรือ post-inflammatory erythema (PIE) ซึ่งเกิดจากการอักเสบของสิวที่ทำให้เส้นเลือดฝอยในผิวหนังขยายตัวและทำให้ผิวแสดงสีแดง รอยแดงเหล่านี้สามารถจางหายไปเองได้ตามเวลา แต่บางครั้งอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปี นี่คือวิธีการบางอย่างที่สามารถช่วยให้รอยแดงจากสิวจางลงเร็วขึ้น:

  1. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเพื่อลดการอักเสบและช่วยซ่อมแซมผิว:

    • วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
    • น้ำมันโรสฮิป มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูผิว
    • นิอาซินาไมด์ (วิตามิน B3) ช่วยลดการอักเสบและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
    • กรดอะซีลาอิก ช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว
  2. การใช้สารพอกผิวหรือเปลือกเคมี:

    • กรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) หรือกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดความหมองคล้ำ และกระตุ้นการหมุนเวียนเซลล์ผิวใหม่
  3. การปกป้องผิวจากแสงแดด:

    • ใช้ครีมกันแดดทุกวัน (SPF 30 ขึ้นไป) เพื่อป้องกันไม่ให้รอยแดงมีสีเข้มขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่
  4. การใช้เลเซอร์และการรักษาด้วยแสง:

    • การรักษาด้วยเลเซอร์หรือ IPL (Intense Pulsed Light) สามารถช่วยลดรอยแดงโดยเป้าหมายไปที่เส้นเลือดฝอยที่ขยายให้หดตัวลง
  5. การดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง:

    • การรักษาความชุ่มชื้นของผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสม และการหลีกเลี่ยงสารที่รุนแรงหรือการทำร้ายผิวที่อาจทำให้การอักเสบแย่ลง

การรักษารอยแดงจากสิวอาจต้องใช้เวลาและความอดทน และอาจจำเป็นต้องใช้การรักษาผสมผสานหลายวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเพื่อหารือเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณเป็นขั้นตอนที่สำคัญ

Q&A การทานอาหารช่วยลดสิว

Q : สาเหตุของรอยแดงหลังจากเป็นสิวคืออะไร?

A : รอยแดงที่เรียกว่า post-inflammatory erythema (PIE) เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดฝอยตอบสนองต่อการอักเสบ รอยแดงนี้มักจะเห็นได้ชัดเจนในผู้ที่มีผิวสีอ่อน แตกต่างจาก post-inflammatory hyperpigmentation (PIH) ซึ่งปรากฏเป็นจุดดำ

Q : รอยแดงจากสิวมักจะอยู่ได้นานแค่ไหน?

A : ระยะเวลาที่รอยแดงจะอยู่นั้นแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของสิวเดิม ประเภทผิว และวิธีการดูแลผิวหลังจากเป็นสิว รอยแดงอาจหายไปในไม่กี่สัปดาห์ถึงหลายเดือน และในบางกรณีอาจคงอยู่หากไม่ได้รับการรักษา

Q : มีวิธีการรักษาที่บ้านใดบ้างที่สามารถช่วยลดรอยแดงจากสิวได้?

A : การใช้วิธีรักษาที่บ้าน เช่น การใช้ว่านหางจระเข้ที่มีสรรพคุณในการลดการอักเสบสามารถช่วยลดความแดงได้ นอกจากนี้ เซรั่มวิตามินซีก็เป็นประโยชน์เนื่องจากช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนและการรักษาผิว ซึ่งอาจช่วยลดรอยแดงได้

สรุป การทานอาหารช่วยลดสิว

การรักษาและจัดการกับรอย สิว โดยเฉพาะรอยแดงจากสิว (post-inflammatory erythema, PIE) นั้นมีหลากหลายวิธี โดยที่แต่ละวิธีมีความเหมาะสมตามลักษณะและความรุนแรงของรอยสิว รวมถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนี้:

  1. การใช้สารที่ช่วยลดการอักเสบและช่วยซ่อมแซมผิว: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามิน C, นิอาซินาไมด์, กรดอะซีลาอิก หรือน้ำมันโรสฮิป สามารถช่วยลดรอยแดงและกระตุ้นการซ่อมแซมผิวหนัง

  2. การใช้สารพอกผิวหรือเปลือกเคมี: การใช้กรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) หรือกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่

  3. การปกป้องผิวจากแสงแดด: การใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปทุกวันเพื่อป้องกันรอยแดงไม่ให้เข้มขึ้นและช่วยลดการอักเสบ

  4. การรักษาด้วยเลเซอร์หรือการรักษาด้วยแสง: เลเซอร์หรือ IPL (Intense Pulsed Light) สามารถช่วยลดเส้นเลือดฝอยที่ขยายและลดรอยแดง

  5. การดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง: การรักษาความชุ่มชื้นของผิวและหลีกเลี่ยงการกระตุ้นที่อาจทำให้การอักเสบแย่ลง

รอยแดงจากสิวสามารถจางลงได้เองตามเวลา แต่การใช้วิธีการเหล่านี้อาจช่วยเร่งกระบวนการหายของรอยแดงและปรับปรุงสภาพผิวให้สุขภาพดีขึ้นได้ การปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและตรงกับสภาพผิวของคุณที่สุด

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

โทนเนอร์สำหรับสิว

โทนเนอร์สำหรับสิว

โทนเนอร์สำหรับสิว

โทนเนอร์สำหรับสิว

โทนเนอร์สำหรับสิวเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดปัญหาสิวและปรับสมดุลของผิวหน้า ด้วยส่วนผสมที่ช่วยลดความมันส่วนเกินและทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน, วิตช์เฮเซล (Witch Hazel) ที่ช่วยลดการอักเสบ และน้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil) ที่มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการเกิดสิวใหม่และทำให้ผิวรู้สึกสะอาด สดชื่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและต้องการดูแลผิวให้สะอาดและมีสุขภาพดี ได้ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์

เลเซอร์สิวผลลัพธ์นานแค่ไหน

ผลลัพธ์จากการรักษาด้วยเลเซอร์สิวสามารถอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของสิว, สภาพผิวของแต่ละคน, และการดูแลผิวหลังการรักษา โดยทั่วไปแล้ว การรักษาด้วยเลเซอร์สิวจะช่วยลดการอักเสบและการเกิดสิวได้ในระยะยาว แต่การรักษาผลลัพธ์จะยาวนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังจากการทำเลเซอร์ และการปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์ ถ้าหากรักษาด้วยเลเซอร์ร่วมกับการดูแลรักษาผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมัน หรือป้องกันการเกิดสิวใหม่ ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บางคนอาจต้องทำการรักษาซ้ำบ้างในระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น ทุก 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนาน

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิวมักเกิดจากการอักเสบของผิวที่เกิดจากสิว ซึ่งมักจะเป็นผลจากการที่สิวมีการระเบิดหรือการบีบสิว ทำให้เกิดการระคายเคืองและเกิดรอยแดงที่ผิวหนังในบริเวณนั้น รอยแดงเหล่านี้สามารถคงอยู่ได้นานตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการอักเสบและการดูแลรักษาผิว

วิธีการลดรอยแดงจากสิว:

  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารลดการอักเสบ: เช่น ครีมที่มีสาร Niacinamide, Centella Asiatica หรือ Aloe Vera ช่วยให้ผิวสงบและลดอาการอักเสบ
  2. ใช้ครีมกันแดด: การทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านสามารถช่วยป้องกันไม่ให้รอยแดงกลายเป็นรอยดำหรือรอยแผลเป็นที่คงอยู่ได้นานขึ้น
  3. เลเซอร์หรือทรีตเมนต์เฉพาะ: เช่น การทำเลเซอร์ที่ช่วยลดรอยแดงจากสิวและกระตุ้นการฟื้นฟูผิวใหม่
  4. ไม่บีบหรือแกะสิว: การบีบหรือแกะสิวจะทำให้รอยแดงและรอยแผลเป็นเกิดขึ้นง่ายขึ้น

การรักษาอาจใช้เวลาและต้องการความอดทนในการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าคุณดูแลอย่างถูกวิธี รอยแดงจากสิวสามารถจางลงได้

การรักษาสิวแบบเกาหลี

การรักษาสิวแบบเกาหลี

การรักษาสิวแบบเกาหลี (Korean Acne Treatment) มักจะเน้นการใช้ขั้นตอนการดูแลผิวที่ละเอียดและเน้นการบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งการรักษาสิวแบบเกาหลีรวมถึงหลายขั้นตอนที่ช่วยรักษาสิวให้หายไปและลดโอกาสการเกิดสิวในอนาคต เช่น

  1. การทำความสะอาดผิว:

    • การทำความสะอาดแบบสองขั้นตอน (Double Cleansing): เริ่มจากใช้ น้ำมันทำความสะอาด (oil-based cleanser) เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางและความมันส่วนเกิน แล้วตามด้วย โฟมล้างหน้า (foam-based cleanser) เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน
    • การใช้โทนเนอร์: เพื่อปรับสมดุลผิวและลดความมันในรูขุมขน ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดสิว
  2. การบำรุงผิว:

    • เซรั่มหรือเอสเซนส์: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิว เช่น เซรั่มที่มีสาร Salicylic Acid หรือ Niacinamide ซึ่งช่วยลดการอักเสบและควบคุมความมัน
    • มาสก์: การใช้ มาสก์สำหรับสิว หรือมาสก์ที่มีส่วนผสมของ ชาเขียว หรือ Tea Tree Oil ช่วยลดการอักเสบและรักษาผิวให้ชุ่มชื้น
    • การใช้ครีมบำรุงผิว (Moisturizer): แม้แต่ผิวที่เป็นสิวยังต้องการความชุ่มชื้น ครีมบำรุงผิวที่ไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน (non-comedogenic) ช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่
  3. การใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะจุด:

    • การใช้ Spot Treatment ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิวที่จุดเฉพาะเจาะจง เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide หรือ Sulfur ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  4. การใช้โฟลว์ดูแลผิว (Korean 10-Step Skincare Routine):

    • ระบบการดูแลผิวที่นิยมในเกาหลีคือการใช้ขั้นตอนที่หลากหลาย ซึ่งอาจจะรวมถึงการใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว (Exfoliator), เอสเซนส์ (Essence), เซรั่ม (Serum), และ มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เพื่อให้ผิวแข็งแรงและสามารถรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์:

    • การใช้ เลเซอร์รักษาสิว เช่น Laser Acne Treatment หรือ Light Therapy ซึ่งเป็นการรักษาสิวที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกระตุ้นการฟื้นฟูผิว
    • การฉีดสารช่วยรักษาสิว เช่น Steroid Injection เพื่อเร่งกระบวนการหายของสิวที่อักเสบ

การรักษาสิวแบบเกาหลีไม่เพียงแต่เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว แต่ยังให้ความสำคัญกับการรักษาผิวให้มีสุขภาพดีในระยะยาว รวมถึงการบำรุงผิวที่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวและการดูแลผิวอย่างถูกวิธีจึงสำคัญมากในการรักษาสิว

Q&A โทนเนอร์สำหรับสิว

Q : การรักษาสิวแบบเกาหลีมีอะไรบ้าง?

A : การรักษาสิวแบบเกาหลีจะเน้นการใช้ขั้นตอนการดูแลผิวอย่างละเอียดและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น การทำความสะอาดแบบสองขั้นตอน (Double Cleansing), การใช้โทนเนอร์และเซรั่มที่ช่วยรักษาสิว, มาสก์ลดการอักเสบ, และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะจุดสำหรับสิว นอกจากนี้ยังมีการใช้เลเซอร์หรือทรีตเมนต์ทางการแพทย์เพื่อช่วยรักษาสิวในกรณีที่รุนแรง

Q : การทำความสะอาดผิวแบบสองขั้นตอน (Double Cleansing) คืออะไร?

A : Double Cleansing เป็นการทำความสะอาดผิวหน้า 2 ขั้นตอน เริ่มจากการใช้ น้ำมันทำความสะอาด (Oil-based cleanser) เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางและความมันส่วนเกิน จากนั้นใช้ โฟมล้างหน้า (Foam-based cleanser) เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวสะอาดอย่างล้ำลึกและป้องกันการเกิดสิว

Q : เซรั่มหรือเอสเซนส์สำหรับสิวควรเลือกแบบไหน?

A : ควรเลือกเซรั่มหรือเอสเซนส์ที่มีส่วนผสมช่วยลดการอักเสบและควบคุมความมัน เช่น Salicylic Acid, Niacinamide หรือ Tea Tree Oil ซึ่งจะช่วยลดการเกิดสิวใหม่และฟื้นฟูผิวจากการอักเสบ

สรุป โทนเนอร์สำหรับสิว

การรักษา สิว แบบเกาหลีเน้นการดูแลผิวอย่างละเอียดและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยการรักษาจะประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

  1. การทำความสะอาดผิว (Double Cleansing): ใช้น้ำมันทำความสะอาดเพื่อลบคราบเครื่องสำอางและความมันส่วนเกิน ตามด้วยโฟมล้างหน้าที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขน
  2. การใช้โทนเนอร์และเซรั่ม: โทนเนอร์ช่วยปรับสมดุลผิวและลดความมัน ขณะที่เซรั่มที่มีส่วนผสมอย่าง Salicylic Acid หรือ Niacinamide ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวใหม่
  3. การใช้มาสก์สำหรับสิว: มาสก์ที่มีส่วนผสมเช่น ชาเขียว หรือ Tea Tree Oil ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
  4. การใช้ครีมกันแดด: ครีมกันแดดที่ไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน (Non-comedogenic) ช่วยป้องกันรังสี UV ที่อาจทำให้สิวเกิดขึ้นใหม่และช่วยปกป้องรอยสิวเก่า
  5. การใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะจุด: เช่น Spot Treatments ที่ช่วยลดสิวในจุดที่เกิดอักเสบ
  6. การรักษาด้วยเลเซอร์หรือทรีตเมนต์: หากสิวรุนแรง การใช้เลเซอร์หรือทรีตเมนต์ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกระตุ้นการฟื้นฟูผิว

การรักษาสิวแบบเกาหลีจะเห็นผลดีที่สุดเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอและควบคู่ไปกับการดูแลผิวอย่างถูกวิธี โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและการเลือกทรีตเมนต์ที่เหมาะสมกับปัญหาสิวที่ต้องการแก้ไข

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิว

รอยแดงที่เกิดจากสิว (Post-inflammatory erythema หรือ PIE) คือรอยแดงหรือรอยที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนังหลังจากที่สิวหายไปแล้ว เป็นกระบวนการที่เกิดจากการระคายเคืองหรือการบาดเจ็บที่เกิดจากสิว ส่งผลให้เส้นเลือดเล็กๆ ใต้ผิวหนังขยายตัวและทำให้เกิดสีแดงในพื้นที่นั้นๆ โดยปกติแล้วรอยแดงเหล่านี้มักจะจางหายไปได้เองภายในระยะเวลา แต่บางครั้งอาจใช้เวลานานกว่าปกติในการหายไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของผิวหนัง, การรักษา และการดูแลผิวหลังการเกิดสิว

โปรแกรมรักษาสิว

โปรแกรมรักษาสิว

โปรแกรมรักษาสิวเป็นการใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อช่วยลดปัญหาสิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียน โดยโปรแกรมรักษาสิวจะครอบคลุมทั้งการรักษาที่บ้านและการรักษาในคลินิกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งการรักษาสิวจะขึ้นอยู่กับประเภทของสิวและสภาพผิวของแต่ละคน สิวสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิว cystic ซึ่งแต่ละประเภทมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป ในขั้นตอนแรกของการรักษาคือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น เจลหรือโฟมล้างหน้าที่ช่วยขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดสิว การทำความสะอาดเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสิวใหม่

นอกจากการทำความสะอาดแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนประกอบช่วยลดการอักเสบและยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียก็มีความสำคัญ เช่น เบนซอยล์ เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ซึ่งช่วยลดการอักเสบและช่วยให้สิวแห้งหายเร็วขึ้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบหรือสิว cystic อาจต้องใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งยาที่ใช้ในกรณีเหล่านี้อาจเป็นยาปฏิชีวนะที่ช่วยลดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย หรือยาเรตินอยด์ที่ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน

โทนเนอร์สำหรับสิว

โทนเนอร์สำหรับสิว

โทนเนอร์สำหรับสิวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสมดุลผิวหน้าและทำความสะอาดรูขุมขนให้สะอาดหมดจดจากสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว โทนเนอร์สำหรับสิวมักจะมีส่วนประกอบที่ช่วยควบคุมความมันและมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบหรือยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวหน้ารู้สึกสดชื่นและกระชับรูขุมขนอีกด้วย

โทนเนอร์สำหรับสิวมักมีส่วนประกอบที่ช่วยแก้ปัญหาสิวโดยเฉพาะ เช่น:

  1. กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid): ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนและลดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
  2. เบนซอยล์ เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide): ช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และลดการอักเสบ
  3. Tea Tree Oil: น้ำมันทีทรีมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากสิว
  4. AHA/BHA: กรดผลไม้ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้รูขุมขนไม่อุดตันและช่วยให้ผิวเรียบเนียน
  5. Niacinamide: ช่วยลดการอักเสบและบรรเทารอยแดงจากสิวได้ดี

เมื่อเลือกใช้โทนเนอร์สำหรับสิว ควรเลือกโทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้ผิวแห้งเกินไป ซึ่งอาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้เกิดสิวเพิ่มเติม ควรใช้โทนเนอร์หลังการทำความสะอาดผิวหน้าโดยการหยดโทนเนอร์ลงบนสำลีและเช็ดเบาๆ ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปากที่มีผิวบอบบาง หลังจากนั้นสามารถใช้ครีมบำรุงหรือผลิตภัณฑ์รักษาสิวต่อได้

การใช้โทนเนอร์สำหรับสิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยปรับสภาพผิวและป้องกันการเกิดสิวใหม่ ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นและลดการอักเสบของสิวที่มีอยู่แล้ว

หน้าหมองคล้ำจากสิว

หน้าหมองคล้ำจากสิว

หน้าหมองคล้ำจากสิวเกิดจากการอักเสบของผิวหลังจากการเกิดสิว ซึ่งทำให้เกิดรอยดำหรือรอยแดงที่ยังคงอยู่หลังจากสิวหายไปแล้ว หรือที่เรียกกันว่า “รอยดำจากสิว” หรือ “รอยแดงจากสิว” (Post-inflammatory hyperpigmentation หรือ PIE) โดยเฉพาะในกรณีที่มีการบีบสิวหรือสัมผัสกับสิวที่อักเสบ อาจทำให้ผิวหนังได้รับการบาดเจ็บ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิว (เมลานิน) ที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดความหมองคล้ำและรอยแผลที่เห็นชัดเจนขึ้น

การดูแลผิวหน้าเพื่อแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำจากสิวสามารถทำได้หลายวิธี:

  1. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบช่วยฟื้นฟูผิว: ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินซี, Niacinamide (ไนอะซินาไมด์), หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ซึ่งช่วยปรับสีผิวและลดรอยหมองคล้ำจากสิวได้ดี

    • วิตามินซี ช่วยในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและลดรอยดำจากการอักเสบ
    • Niacinamide ช่วยลดการผลิตเม็ดสีที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ และยังช่วยลดการอักเสบ
    • AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
  2. การป้องกันแสงแดด: การใช้ครีมกันแดดทุกวันเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้รอยดำจากสิวแย่ลงจากการถูกแสงแดด ซึ่งจะทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้นและรอยหมองคล้ำยังคงอยู่ได้นาน

  3. การรักษาด้วยเลเซอร์หรือการผลัดเซลล์ผิว: ในกรณีที่รอยหมองคล้ำยังไม่หายไปหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์บำรุง การทำทรีตเมนต์เลเซอร์หรือการผลัดเซลล์ผิว (Microdermabrasion) อาจช่วยในการลดรอยหมองคล้ำและฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสขึ้น

  4. การดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง: การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิวใหม่และลดการสะสมของความมันที่อาจทำให้เกิดปัญหาผิวเพิ่มเติม

การรักษาหน้าหมองคล้ำจากสิวต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นเมื่อผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกต้อง และความหมองคล้ำจากสิวจะค่อยๆ จางหายไป.

Q&A รอยแดงที่เกิดจากสิว

Q : ทำไมหน้าหมองคล้ำจากสิวจึงเกิดขึ้น?

A : หน้าหมองคล้ำจากสิวเกิดจากการอักเสบของผิวหลังจากสิวหายไป ซึ่งทำให้เกิดรอยดำหรือรอยแดงที่ยังคงอยู่หลังการหายของสิว โดยเฉพาะเมื่อมีการสัมผัสหรือบีบสิว ทำให้ผิวได้รับการบาดเจ็บและกระตุ้นการผลิตเม็ดสีมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความหมองคล้ำและรอยแผลที่ชัดเจนขึ้น

Q : จะรักษารอยดำจากสิวได้อย่างไร?

A : การรักษารอยดำจากสิวสามารถทำได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบช่วยฟื้นฟูผิว เช่น วิตามินซี, Niacinamide, หรือกรด AHA ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและลดการผลิตเม็ดสีที่ทำให้เกิดรอยดำ นอกจากนี้ยังควรใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้รอยดำแย่ลงจากการถูกแสงแดด

Q : ทำไมการใช้ครีมกันแดดถึงสำคัญในการรักษารอยดำจากสิว?

A : การใช้ครีมกันแดดช่วยป้องกันรอยดำจากการถูกแสงแดด ซึ่งสามารถทำให้เม็ดสีผิว (เมลานิน) เข้มขึ้นและทำให้รอยดำจากสิวอยู่ได้นานขึ้น ครีมกันแดดจึงช่วยป้องกันไม่ให้รอยแผลหรือรอยดำจากสิวแย่ลง

สรุป รอยแดงที่เกิดจากสิว

หน้าหมองคล้ำจากสิวเกิดจากการอักเสบของผิวหลังการเกิดสิว ซึ่งทำให้เกิดรอยดำหรือรอยแดงที่ยังคงอยู่หลังจากสิวหายไป สาเหตุหลักมาจากการสัมผัสหรือบีบสิวที่อาจทำให้ผิวได้รับการบาดเจ็บ กระตุ้นการผลิตเม็ดสี (เมลานิน) เกินไป ทำให้เกิดความหมองคล้ำและรอยแผลที่เห็นชัดเจน การรักษาหน้าหมองคล้ำจากสิวสามารถทำได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเช่น วิตามินซี, Niacinamide หรือกรด AHA ซึ่งช่วยลดรอยดำ, ผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วและปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ การใช้ครีมกันแดดทุกวันก็เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้รอยดำแย่ลงจากการโดนแสงแดดที่ทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้นในกรณีที่รอยหมองคล้ำไม่ดีขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุง การทำทรีตเมนต์เลเซอร์หรือการผลัดเซลล์ผิวสามารถช่วยได้ โดยเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนขึ้น การรักษารอยดำจากสิวต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นเมื่อมีการดูแลผิวอย่างถูกต้องและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

เลเซอร์หน้าเด็ก

เลเซอร์หน้าเด็ก

เลเซอร์หน้าเด็ก

เลเซอร์หน้าเด็ก

เลเซอร์หน้าเด็กเป็นเทคโนโลยีการรักษาผิวที่ใช้แสงเลเซอร์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดหรือขั้นตอนที่ซับซ้อน เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และทำให้ผิวดูสดใสขึ้น เลเซอร์หน้าเด็กยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าดูมีสุขภาพดีและลดปัญหาผิวที่เกิดจากการแก่ตัวหรือแสงแดด

เลเซอร์เพื่อผิวเนียน

เลเซอร์เพื่อผิวเนียน

เลเซอร์เพื่อผิวเนียนเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงเลเซอร์เพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส โดยการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว การทำเลเซอร์สามารถช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว จุดด่างดำ ริ้วรอย และปัญหาผิวไม่เรียบเนียนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังการรักษาผิวจะดูเนียนเรียบ สว่างสดใส และดูมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งวิธีนี้ไม่ต้องการการพักฟื้นนาน และปลอดภัยต่อผิว ทำให้หลายคนเลือกใช้เลเซอร์เป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้สวยเนียนใสอย่างรวดเร็ว

เลเซอร์กระชับรูขุมขน

เลเซอร์กระชับรูขุมขน

เลเซอร์กระชับรูขุมขนเป็นการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวและช่วยกระชับรูขุมขนที่กว้างลง โดยการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะที่สามารถเข้าถึงชั้นผิวลึก ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินและกระชับผิว ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นและมีความกระชับ โดยที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดหรือการฟื้นตัวนาน การทำเลเซอร์กระชับรูขุมขนสามารถช่วยลดปัญหาผิวที่มีรูขุมขนกว้างหรือผิวมัน ซึ่งมักเกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนหรือการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปจากต่อมไขมัน เลเซอร์จะช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบ กระจ่างใสขึ้น พร้อมทั้งลดปัญหาผิวที่เกิดจากรูขุมขนกว้าง เช่น สิวอุดตันหรือผิวมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลเซอร์รอยแผลเป็นสิว

เลเซอร์รอยแผลเป็นสิว

เลเซอร์รอยแผลเป็นสิวเป็นวิธีการรักษาที่ใช้แสงเลเซอร์เพื่อช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว ทั้งรอยสิวที่เป็นหลุม รอยดำ หรือรอยแดง โดยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ การทำเลเซอร์จะช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดการเกิดแผลเป็นจากสิว และกระตุ้นให้ผิวที่ถูกทำลายจากสิวฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว การรักษาด้วยเลเซอร์ช่วยลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากการอักเสบของสิว ทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้นและลดริ้วรอยที่เกิดจากการรักษาสิวด้วยวิธีต่างๆ นอกจากนี้ เลเซอร์ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดหรือการพักฟื้นนาน

Q&A เลเซอร์หน้าเด็ก

Q: การทำเลเซอร์เพื่อรักษารอยแผลเป็นจากสิวมีกระบวนการอย่างไร?

A: การทำเลเซอร์เพื่อรักษารอยแผลเป็นจากสิวใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเพื่อเจาะลึกสู่ชั้นผิวที่ได้รับความเสียหายจากสิว โดยจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งทำให้รอยแผลเป็นจากสิวเรียบเนียนขึ้น ลดรอยแดงและรอยดำ รวมถึงปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น

Q: การทำเลเซอร์ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างไร?

A: การทำเลเซอร์ช่วยด้วยการใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูงเข้าสู่ชั้นผิว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และลดการสะสมของเนื้อเยื่อแผลเป็นจากสิว กระบวนการนี้ยังช่วยให้ผิวที่เสียหายจากสิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทำให้รอยแผลเป็นดูจางลงและผิวเรียบเนียนขึ้น

Q: การทำเลเซอร์เพื่อรักษารอยแผลเป็นจากสิวปลอดภัยหรือไม่?

A: การทำเลเซอร์เพื่อรักษารอยแผลเป็นจากสิวถือเป็นวิธีการที่ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผ่านการประเมินอย่างถูกต้อง ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นมีน้อย เช่น ผิวหน้าแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังการรักษา ซึ่งจะหายไปในไม่กี่วัน

สรุป เลเซอร์หน้าเด็ก

การทำ เลเซอร์ เพื่อรักษารอยแผลเป็นจากสิวเป็นวิธีการที่ใช้แสงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวที่ได้รับความเสียหายจากสิว ช่วยลดรอยแผลเป็น รอยแดง รอยดำ และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือฟื้นตัวนาน การรักษาด้วยเลเซอร์มีประสิทธิภาพในการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและช่วยลดความลึกของแผลเป็น แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามประเภทของแผลและจำนวนการรักษาที่ทำ โดยทั่วไปต้องทำประมาณ 3-6 ครั้งเพื่อเห็นผลที่ดีที่สุด การทำเลเซอร์มีความปลอดภัยและใช้เวลาในการฟื้นตัวน้อย แต่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์หลังการรักษาได้ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

การเลือกคลินิกเลเซอร์

การเลือกคลินิกเลเซอร์

การเลือกคลินิกเลเซอร์

การเลือกคลินิกเลเซอร์

การเลือกคลินิกเลเซอร์เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะการรักษาผิวพรรณด้วยเลเซอร์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และหากเลือกคลินิกที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลข้างเคียงหรือผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคลินิกที่เชี่ยวชาญในการให้บริการเลเซอร์และรักษาผิวพรรณ วันนี้ขอแนะนำ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ ซึ่งเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียงในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะในการให้บริการเลเซอร์และการดูแลผิวพรรณ วันวานคลินิกได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้าหลายท่าน ด้วยการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูง คลินิกนี้มีการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทั้งมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำเลเซอร์มากมาย ทั้งนี้แพทย์ทุกท่านที่ทำงานที่วันวานคลินิกจะทำการประเมินสภาพผิวของลูกค้าอย่างละเอียดก่อนเริ่มการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการรักษาจะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

เลเซอร์สิวปลอดภัยไหม

การทำเลเซอร์รักษาสิวเป็นวิธีที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในคลินิกที่มีมาตรฐาน การใช้เลเซอร์ในการรักษาสิวมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะเหมาะสมกับชนิดและสภาพของสิวที่แตกต่างกัน เช่น เลเซอร์ CO2 หรือ เลเซอร์อาร์กอน (Ablative Laser) ที่ช่วยในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบของผิวหน้า และเลเซอร์ที่ใช้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น เลเซอร์ Fractional หรือ เลเซอร์ IPL (Intense Pulsed Light) ที่ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนและลดรอยแผลเป็นจากสิว

การรักษาด้วยเลเซอร์สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดี และช่วยลดการเกิดสิวใหม่ได้ แต่ต้องระมัดระวังในการเลือกคลินิกที่มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) และการดูแลหลังการรักษาที่ดี เพื่อป้องกันผลข้างเคียง เช่น การระคายเคือง หรือผิวแห้งกร้าน

ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ และทำการรักษาที่คลินิกที่มีมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ระยะเวลาพักฟื้นหลังเลเซอร์

ระยะเวลาพักฟื้นหลังการทำเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้และลักษณะของการรักษาที่ทำ แต่โดยทั่วไปแล้ว การพักฟื้นหลังการทำเลเซอร์จะใช้เวลาระหว่าง 1-7 วัน หรือมากกว่านั้นในบางกรณี

  1. เลเซอร์แบบไม่ทำลายผิว (Non-ablative laser) เช่น เลเซอร์ IPL หรือเลเซอร์ Fractional จะมีระยะเวลาพักฟื้นสั้น โดยมักจะไม่มีรอยแดงหรืออาการบวมมาก หลังการรักษาอาจรู้สึกได้ถึงผิวแห้งหรือคันเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปภายใน 1-2 วัน และสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที

  2. เลเซอร์แบบทำลายผิว (Ablative laser) เช่น เลเซอร์ CO2 หรือ Erbium YAG อาจมีระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวขึ้น เนื่องจากการทำลายผิวชั้นนอกเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูผิวใหม่ ในช่วง 3-7 วันหลังการรักษาอาจมีอาการบวม แดง หรือเป็นสะเก็ดที่ผิว ซึ่งจะค่อยๆ หายไปและต้องมีการดูแลอย่างระมัดระวัง

ทั้งนี้ การดูแลหลังการทำเลเซอร์เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง การใช้ครีมกันแดด และการรักษาความสะอาดของผิว รวมถึงการทาครีมหรือยาตามที่แพทย์แนะนำเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิว การพักฟื้นจะสั้นหรือยาวขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมและเฉพาะสำหรับคุณ

เลเซอร์ทำให้ผิวบางจริงไหม

การทำเลเซอร์ไม่ได้ทำให้ผิวบางลงโดยตรง แต่สามารถมีผลต่อผิวในลักษณะต่างๆ ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้และการดูแลหลังการรักษา

  1. เลเซอร์ที่ทำลายผิว (Ablative Laser) เช่น เลเซอร์ CO2 หรือ Erbium YAG ที่ใช้ในการรักษาผิวหน้า เช่น รอยแผลเป็น หรือริ้วรอย จะทำให้ผิวบางลงชั่วคราวในช่วงที่มีการฟื้นฟูหลังการรักษา เนื่องจากเลเซอร์จะทำลายชั้นผิวบางๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวที่เกิดขึ้นใหม่อาจมีความบางลงบ้างในช่วงแรก แต่จะค่อยๆ แข็งแรงและหนาขึ้นเมื่อผิวฟื้นฟูเต็มที่

  2. เลเซอร์ที่ไม่ทำลายผิว (Non-ablative Laser) เช่น เลเซอร์ Fractional หรือ IPL ซึ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยในการฟื้นฟูผิว โดยไม่ทำให้ผิวเกิดการเสียหายมากนัก ผลลัพธ์ที่ได้คือการกระชับผิวและลดปัญหาผิวพรรณโดยไม่ทำให้ผิวบางลง

อย่างไรก็ตาม การทำเลเซอร์อย่างถูกวิธี โดยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ดูแล จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวบางหรือการเกิดแผลหลังการรักษา การทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่องหรือในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณและการดูแลหลังการรักษาที่ดี

Q&A การเลือกคลินิกเลเซอร์

Q : การทำเลเซอร์ทำให้ผิวบางจริงหรือไม่?

A : การทำเลเซอร์ไม่ได้ทำให้ผิวบางลงโดยตรง แต่มีผลต่อผิวในลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ หากเป็นเลเซอร์ที่ทำลายผิว (Ablative Laser) เช่น เลเซอร์ CO2 หรือ Erbium YAG อาจทำให้ผิวบางลงชั่วคราวในช่วงที่ฟื้นฟู แต่หลังจากนั้นผิวจะฟื้นตัวและหนาขึ้นเมื่อผิวใหม่สร้างขึ้น ในขณะที่เลเซอร์ที่ไม่ทำลายผิว (Non-ablative Laser) เช่น เลเซอร์ IPL หรือ Fractional มักไม่ทำให้ผิวบางลงและจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวกระชับและแข็งแรงขึ้น

Q : หลังการทำเลเซอร์ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?

A : ระยะเวลาพักฟื้นหลังการทำเลเซอร์ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ หากเป็นเลเซอร์ที่ไม่ทำลายผิว เช่น เลเซอร์ IPL หรือ Fractional อาจใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1-2 วัน และสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที แต่หากเป็นเลเซอร์ที่ทำลายผิว เช่น เลเซอร์ CO2 หรือ Erbium YAG จะมีระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 3-7 วัน ซึ่งอาจมีอาการบวม แดง หรือสะเก็ดที่ผิวในช่วงแรก การดูแลหลังการทำเลเซอร์จึงสำคัญมากในการช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้ดีและเร็วขึ้น

Q : การทำเลเซอร์รักษาสิวปลอดภัยไหม?

A : การทำเลเซอร์รักษาสิวสามารถปลอดภัยได้หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และในคลินิกที่มีมาตรฐาน เลเซอร์สามารถช่วยลดการอักเสบของสิวและการเกิดสิวใหม่ได้ โดยไม่ทำให้ผิวเสียหาย แต่ต้องคำนึงถึงชนิดของสิวและการดูแลผิวหลังการรักษา การทำเลเซอร์ในที่ที่มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

สรุป การเลือกคลินิกเลเซอร์

การทำเลเซอร์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวพรรณ เช่น สิว รอยแผลเป็น และการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แม้ว่าโดยทั่วไปการทำเลเซอร์จะไม่ทำให้ผิวบางลง แต่บางชนิดของเลเซอร์ที่ทำลายผิว (Ablative Laser) อาจทำให้ผิวบางลงชั่วคราวในระหว่างการฟื้นฟู และหลังจากนั้นผิวจะค่อยๆ ฟื้นตัวและแข็งแรงขึ้น เมื่อทำเลเซอร์ประเภทที่ไม่ทำลายผิว (Non-ablative Laser) เช่น เลเซอร์ IPL หรือ Fractional จะไม่มีผลทำให้ผิวบางลงและช่วยกระชับผิวให้แข็งแรงขึ้น

หลังการทำเลเซอร์ระยะเวลาพักฟื้นขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ สำหรับเลเซอร์ที่ไม่ทำลายผิวจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 วัน ขณะที่เลเซอร์ที่ทำลายผิวอาจต้องการเวลาพักฟื้นประมาณ 3-7 วัน ซึ่งอาจมีอาการบวม แดง หรือสะเก็ดที่ผิวในช่วงแรก การดูแลผิวหลังการทำเลเซอร์อย่างระมัดระวังช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้ดี

การทำเลเซอร์รักษาสิวและรอยแผลเป็นจากสิวถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในคลินิกที่มีมาตรฐาน ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยลดการอักเสบของสิวและการเกิดสิวใหม่ รวมถึงช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิวจางลงและเรียบเนียนขึ้น

บทความ
โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย อยากหน้าเด็กแต่ไม่อยากเจ็บตัวเยอะใช่ไหม? โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย คือเคล็ดลับฮิตที่ช่วยล็อกอายุใบหน้าให้ดูสดใสภายในไม่กี่วัน ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวเกร็ง ทำให้ริ้วเล็ก ๆ อย่างตีนกา หน้าผาก หรือร่องยิ้มจางลง ผิวดูฟูเรียบและเฟิร์มขึ้นทันตา ที่สำคัญคือใช้เวลาฉีดไม่นาน พักฟื้นน้อย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการผลลัพธ์ไวแบบไม่สะดุดไลฟ์สไตล์ ที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ลดริ้วรอย เกรดพรีเมียม

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด

กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด คำถามนี้ถูกค้นหามากขึ้นทุกปี กินคอลลาเจนตอนไหนดีที่สุด ถึงจะดูดซึมเต็มที่ ? เพราะคอลลาเจนไม่ใช่แค่เทรนด์สวยใส แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกเวลากินถูกจุด ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมผิว ข้อต่อ และเอ็นได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกเท่าตัว บทความนี้ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ จะพาเจาะลึกช่วงเวลาทองในการกินคอลลาเจน บอกต่อยี่ห้อเด่นปี 2025 พร้อมเคล็ดลับผิวขาวกระจ่างใสที่ทำตามได้จริง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2025 ปี 2025

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG

รีวิว Long Pulse ND YAG เปิดประสบการณ์ใหม่กับ รีวิว Long Pulse ND YAG เลเซอร์เวอร์ชันอัปเกรดที่คนรักผิวและนักกำจัดขนตัวจริงแห่จองคิวกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ วันวาน คลินิก Onewanclinic คลินิกความงาม บุรีรัมย์ ซึ่งนำเข้าเครื่องแท้ มาตรฐาน FDA USA ครบทุกฟังก์ชัน ตั้งแต่เส้นเลือดฝอยจางหายไปจนถึงขนดกแข็งดื้อแค่ไหนก็เอาอยู่ บทความนี้จะพาเจาะลึกหลักการทำงาน ผลลัพธ์จริง และเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำแบบละเอียดยิบ

Scroll to Top