ผิวขาว ใส กระจ่าง เป็นความฝันของทุกคน แต่บ่อยครั้งที่การทาครีม กินวิตามิน หรือแม้กระทั่งการนอนหลับพอประมาณเหล่านั้นก็ไม่ทำให้ผลมาพอดี อันนี้เข้าใจว่าคนหนึ่งที่ไปทำงาน เรียน หรือเจอแม่บ้านเหนื่อยๆ อาจจะไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ได้หลาย ครั้งที่เราสรุปได้ว่า เวลาน้อยเกินไปกับผลที่ต้องการเท่านั้น
ที่ Onewan Clinic เราขอเสนอการดริปวิตามินผิวที่ได้รับการออกแบบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยสูตรต่างๆ ที่เหมาะกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะอยากผิวขาวขึ้น ผิวใสขึ้น หรือแม้กระทั่งอยากบำรุงร่างกายให้สดชื่นหลังวันทำงาน อ่านต่อไปเพื่อเรียนรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับดริปวิตามินผิวกันครับ
ดริปวิตามินผิว คืออะไร ดีอย่างไร
ดริปวิตามิน ถ้าให้อธิบายง่ายๆ คือ การให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่างๆ เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรง ไม่เหมือนการรับประทานวิตามินเสริมปกติที่ต้องผ่านระบบทางเดินอาหารก่อน
ข้อดีของการดริปวิตามินมีอยู่หลายประการ :
1. ดูดซึมได้เร็ว เมื่อเราดริปวิตามินแล้ว วิตามินจะเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้ทันที บางคนบอกว่าเห็นผลภายในเพียงแค่ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังจากเสร็จสิ้นการดริป
2. ดูดซึมได้เต็มประสิทธิภาพ งานวิจัยในสาขาแพทย์แสดงให้เห็นว่า เมื่อเราทานวิตามินเสริมทางปาก ร่างกายสามารถดูดซึมได้เพียง 15-30% เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับแต่ละคนและแต่ละประเภทวิตามิน) แต่เมื่อดริปเข้าเส้นเลือดแล้ว วิตามินจะบ่อมาสำหรับการดูดซึมมากกว่า 90% ตามการศึกษาจากเอกสารทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้
3. เลือกสูตรได้ตามต้องการ ร่างกายของเรามีความต้องการต่างกัน บางคนอาจต้องการผิวขาว บางคนต้องการผิวใส บางคนต้องการให้ร่างกายสดชื่นหลังการทำงานหนัก ดริปวิตามินสามารถปรับเลือกสูตรได้ตามความต้องการของคุณได้
ดริปวิตามินผิวใสเหมาะกับใคร
ไม่ใช่ว่ามีคนอื่นทำแล้วสวยงามก็ต้องไปทำตามเลย การเลือกดริปวิตามินควรพิจารณาตามความต้องการและสภาวะของแต่ละบุคคล ในที่นี้ดริปวิตามินผิวจะเหมาะกับคน:
– ที่มีสภาพผิวหมองคล้ำ สีผิวขาวไม่สม่ำเสมอ หลังจากทำงานหนัก นอนไม่พอ หรือเพิ่งจากการทำมหลายอย่าง
– ที่ทำงาน/เรียนหนัก นอนไม่พอ ยิ่งเวลาสั้นๆ อยากให้ผิวดูสดชื่นและมีพลัง
– ที่ต้องการรักษารักษาผิวให้คงความสวยงาม อยากผิวขาวขึ้นไปอีก ใสขึ้นไป
– ที่มีปัญหาผิวบางประการ เช่น ฝ้า กระ หรือผิวดูไม่ออร่า
– ที่อยากบำรุงร่างกายจากภายใน ไม่ใช่แค่เรื่องผิวหน้า ดริปวิตามินช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอได้เร็วกว่าการรับประทาน
อย่างไรก็ตาม หากคุณมีสภาวะสุขภาพพิเศษ หรือกำลังใช้ยาบางชนิด ลองปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำดริปวิตามินนะครับ
ดริปวิตามิน ดีไหม
คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนถามตัวเอง อยากรู้ว่าการดริปวิตามินจริงๆ แล้วมีประโยชน์จริงไหม หรือเป็นแค่เทรนด์ที่คิดถึง แล้วตัดเงินเฉยๆ อันนี้ผมเข้าใจครับ เพราะราคามันไม่ถูก
ความจริงแล้ว ดริปวิตามินก็ ดีจริง แต่ต้องเข้าใจว่าดีในแง่ไหน บางแง่ดี บางแง่ก็ต้องคิดให้ดี
เรื่องแรก ถ้าเรียกว่าดีในแง่ของการดูดซึมวิตามิน ตอบได้เลยว่า ดีกว่ามาก – ร่างกายสามารถใช้วิตามินได้ถึง 90% เมื่อเราดริป แต่ถ้าทานวิตามินแบบปกติก็ดูดซึมได้เพียง 15-30% เท่านั้น ความแตกต่างนี้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกันเยอะ
เรื่องที่สอง ถ้าถามว่า ผลลัพธ์ที่ได้มันเห็นจริงไหม? ตามการศึกษาของ Dr. Keith Ong พบว่า 95.4% ของผู้รับบริการเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความขาวและความชุ่มชื้นของผิวหลังจากดริป 6 ครั้ง ซึ่งแสดงว่ามีคนส่วนใหญ่เห็นผลจริง
แต่นี่คือจุดที่ต้องระวัง: ความขาวและความใสที่เห็นจากการดริปมันไม่ถาวร ถ้าคุณหยุดดริป ผลลัพธ์ก็จะค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ ซึ่งหมายความว่าคุณต้องทำต่อเนื่องเพื่อคงผล นอกจากนั้น ราคาก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย – ดริปวิตามินหนึ่งครั้งต้องใช้เงินตั้งแต่ 800 ถึง 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับสูตรที่เลือก
ดังนั้น ถ้าคุณอยากตัดสินใจว่าดริปวิตามินดีหรือไม่สำหรับตัวคุณ ให้คิดว่าคุณเป็นคนประเภทไหน อยากเห็นผลเร็วหรือไม่ มีเวลาดูแลตัวไหม เต็มใจที่จะลงทุนต่อเนื่องมั้ย คำตอบของคำถามเหล่านี้จะบอกคุณว่า ดริปวิตามินดีสำหรับตัวคุณจริงหรือเปล่า
ดริปวิตามิน กับ กินอาหารเสริม อันไหนดีกว่ากัน
ทำไมต้องดริป ทำไมไม่แค่กินอาหารเสริมได้เลย เป็นคำถามที่มีเหตุผล เพราะก็จริงที่อาหารเสริมวิตามินราคาถูกกว่าดิปเยอะ
ความจริงก็คือ ทั้ง 2 อย่างมีข้อดีและข้อเสีย และอันที่จริงแล้ว พวกเขาไม่ต้องแย่งชิงกันหรอก บางคนดริปวิตามิน บางคนกินอาหารเสริม บางคนทำทั้งสองอย่าง ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และการใช้งานของแต่ละคน
การดริปวิตามิน
ข้อดีของการดริปวิตามิน :
- ดูดซึมได้เร็วและเต็มประสิทธิภาพ (ได้ประมาณ 90% ขึ้นไป)
- เห็นผลได้เร็ว บางคนเห็นผลเดียวในการทำครั้งแรก
- ไม่เสี่ยงต่อการดูดซึมต่ำเพราะไม่ผ่านระบบทางเดินอาหาร
ข้อเสีย :
- ราคาแพงกว่า
- ต้องมาคลินิก ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
- ไม่ใช่การรักษาระยะยาว ต้องทำต่อเนื่อง
กินอาหารเสริม
ข้อดีของการกินอาหารเสริมวิตามิน :
- ราคาถูก
- สะดวก ทานที่บ้านได้
- สามารถกินต่อเนื่องในระยะยาวได้
ข้อเสีย :
- ดูดซึมได้เพียง 15-30% เท่านั้น ขึ้นอยู่กับระบบทางเดินอาหารของแต่ละคน
- เห็นผลช้า อาจต้องกินหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนถึงจะเห็นผล
- บางคนอาจมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ทำให้ดูดซึมได้น้อยลง
ดริปวิตามิน ข้อดี-ข้อเสีย มีอะไรบ้าง
ดริปวิตามินมีข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ
ข้อดีของการดริปวิตามิน
ข้อดี 1 : ดูดซึมได้ 90% ขึ้นไป ตามงานวิจัยทางแพทย์ เมื่อเราดริปวิตามินเข้าเส้นเลือด ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากวิตามินและแร่ธาตุที่ให้ไปเกือบทั้งหมด ต่างจากการทานที่ดูดซึมได้เพียง 15-30%
ข้อดี 2 : เห็นผลได้รวดเร็ว บางคนบอกว่าเห็นผลทันทีหลังการดริป ตั้งแต่ผิวดูสดใส สดชื่น พร้อมพลัง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นผลจากร่างกายที่ได้รับน้ำและสารอาหารด้วย
ข้อดี 3 : สามารถปรับเลือกสูตรตามต้องการ หากคุณต้องการผิวขาวขึ้น เราสามารถเลือกสูตรที่เน้นวิตามินซีและกลูตาไธโอน หากต้องการบำรุงร่างกายให้สดชื่น เราก็เลือกสูตร Myers’ Cocktail ได้
ข้อดี 4 : ไม่มีปัญหาการดูดซึมเหมือนการทานเสริม บางคนมีปัญหาเรื่องการดูดซึม เช่น เดินท้องบ่อย หรือมีโรคระบบทางเดินอาหาร การดริปวิตามินช่วยแก้ปัญหานี้ได้
ข้อดี 5 : ให้ความชื่นใจและความมั่นใจ นอกจากผลทางกายแพทย์แล้ว ความจริงว่าการใช้เงินเพื่อบำรุงตัวเอง ก็มีผลให้จิตใจรู้สึกดี ทำให้ผลักดันให้เราดูแลตัวเองได้ดีขึ้นด้วย (แม้ว่าบางส่วนอาจเป็นผลของ Placebo effect ก็ตาม แต่ก็ยังเป็นผลดีต่อการสุขภาพจิตใจได้เช่นกัน)
ข้อเสียของการดริปวิตามิน
ข้อเสีย 1 : ราคาแพง การดริปวิตามินแต่ละครั้งต้องใช้ค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลายร้อยถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับสูตรที่เลือก ถ้ากำหนดให้บ่อยๆ เดือนละหลายครั้ง ค่าใช้จ่ายอาจสะสมขึ้นเยอะ
ข้อเสีย 2 : ต้องมาคลินิก ใช้เวลา การดริปวิตามินนั้นต้องให้แพทย์หรือพยาบาลวางเข็ม และตั้งตรวจความเป็นอันตรายตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องมาคลินิก ใช้เวลา 30-60 นาที สำหรับคนที่ยุ่งมากก็อาจเป็นปัญหา
ข้อเสีย 3 : ผลไม่ถาวร หากหยุดการดริปวิตามิน ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ คุณต้องทำต่อเนื่องหากต้องการให้ผลคงอยู่
ข้อเสีย 4 : ความเสี่ยง (แม้ว่าน้อยก็ตาม) การเจาะเข็มเส้นเลือด มีความเสี่ยงเล็กน้อย เช่น การบาดเจ็บ การติดเชื้อ (หากไม่ทำสะอาดอย่างถูกต้อง) หรือการแพ้อาการใหม่บางตัว อย่างไรก็ตาม หากทำที่คลินิกที่เชื่อถือได้ และแพทย์ผู้ชำนาญการ ความเสี่ยงจะลดลงมากมาย
ข้อเสีย 5 : หลักฐานวิทยาศาสตร์ยังไม่สมบูรณ์ มีการศึกษาจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับดริปวิตามิน แต่จำนวนการศึกษาที่มีความเข้มงวด (Rigorous clinical trials) ยังไม่มากเท่าใจ โดยเฉพาะเมื่อเรียงสำหรับเป้าหมายด้านความงามเสียการโปรแกรมต่างๆ มีเลย ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากคำบอกเล่า (Anecdotal evidence) มากกว่าข้อมูลจากการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์
ถ้าจะดริปวิตามิน ต้องหยุดกิน อาหารเสริมไหม
ไม่จำเป็นต้องหยุดทั้งหมด แต่ควรหลีกเลี่ยงบางอย่าง
ทำไมต้องระวัง : เมื่อคุณดริปวิตามินเข้าเส้นเลือด วิตามินจะเข้าสู่ร่างกายในปริมาณสูงสุด ถ้าคุณทานอาหารเสริมพร้อมๆ กัน วิตามินในร่างกายจะสูงเกินไป ซึ่งอาจเกิด:
- วิตามินสะสมมากเกินไป (โดยเฉพาะวิตามินที่ลดละลายไม่ได้ เช่น วิตามิน A, D, E, K)
- บาง vitamin อาจแข่งขันกับอีก vitamin ในการดูดซึม ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
- อาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ (หายากแต่อาจเกิด)
ควรหลีกเลี่ยง :
- วิตามินซี (Vitamin C) – ถ้าดริปมี Vitamin C แล้ว อย่าทานอาหารเสริมที่มี Vitamin C เพิ่ม
- กลูตาไธโอน (Glutathione) – ถ้าดริปมี Glutathione อยู่แล้ว ห้ามทาน supplement Glutathione พร้อมๆ กัน
- วิตามิน B Complex – ถ้าดริปมี B Complex เพียงพอแล้ว อย่าทาน B Complex supplement เพิ่ม
ปลอดภัยที่จะทาน :
- วิตามิน C จากอาหารจริง (สด) ไม่เป็นปัญหา เพราะปริมาณน้อย
- แร่ธาตุ (สังกะสี แมกนีเซียม) ปกติปลอดภัยเพราะไม่ชนกัน
- อาหารเสริมที่เป็น “food-based” (แอลจี, น้ำเต้าหู้) สวนใจ
คำแนะนำที่ดีที่สุด : ปรึกษาแพทย์ที่ Onewan Clinic ว่าคุณกำลังกินอาหารเสริมอะไรอยู่ เพื่อให้แพทย์สามารถปรับสูตรดริปให้เหมาะสม หรือแนะนำว่าควรหยุดกินอะไรประมาณกี่วัน
ดริปวิตามินผิวที่ วันวานคลินิก มีกี่สูตร
ที่ Onewan Clinic (วันวาน คลินิกความงามบุรีรัมย์) เรามี 5 สูตรวิตามินผิว ที่ออกแบบมาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ ของผู้รับบริการ
1. Vitamin Booster สูตรพื้นฐานที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น บำรุงร่างกายจากภายใน มีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ วิตามินบี คอมเพล็กซ์ วิตามินซี คอลลาเจน และแร่ธาตุต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ที่หลังจากงานหนัก นอนไม่พอ อยากให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมา
2. Beauty Revive สูตรบำรุงผิวที่เน้นการฟื้นฟูและสดชื่น มี Biotin และสารต้านอนุมูลอิสระเนื่องจากมีกลูตาไธโอน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวดูใสสดชื่น
3. Wink White สูตรผิวขาวใสที่เน้นการกระจ่างใส มีวิตามินซี ในปริมาณสูง กลูตาไธโอน และ Groeth Factor ช่วยให้ผิวดูขาวขึ้น ใสขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวขาวกระจ่างใสอย่างชัดเจน
4. Whitening Reju สูตรฟื้นฟูและขาวที่ออกแบบมาเพื่อให้ผิวขาวขึ้นและเนียนขึ้นพร้อมกัน มี Glutathione ในปริมาณสูง ดีจริงๆ สำหรับผู้ที่ต้องการผิวขาวและเนียนลื่นในเวลาเดียวกัน
5. Summer Protect (NEW!) สูตรป้องกันแสงแดดและบำรุงผิวเพิ่มเติม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันแสง UV และได้รับการบำรุงเพิ่มเติม ตรงกับช่วงฤดูร้อนหรือเวลาที่นั่งตากแดดเยอะๆ
ทุกสูตรได้รับการออกแบบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผ่านการตรวจสอบมาตรฐานแล้วครับ
ดริปวิตามินผิวที่ราคาเท่าไหร่
ค่าดริปวิตามินผิวที่ Onewan Clinic มีราคาตามสูตร
Vitamin Booster – 890 บาท สูตรพื้นฐานที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น เหมาะสำหรับผู้ที่อยากบำรุงร่างกายจากภายใน
Beauty Revive – 1,890 บาท สูตรบำรุงผิวที่เน้นการฟื้นฟูและสดชื่น มี Biotin และสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับผู้ต้องการผิวดูใสสดชื่น
Wink White – 2,890 บาท สูตรผิวขาวใสที่เน้นการกระจ่างใส มีวิตามินซีในปริมาณสูง กลูตาไธโอน และ Growth Factor เหมาะสำหรับผู้ต้องการผิวขาวกระจ่างใสอย่างชัดเจน
Whitening Reju – 3,990 บาท สูตรฟื้นฟูและขาวที่ออกแบบเพื่อให้ผิวขาวขึ้นและเนียนลื่นพร้อมกัน มี Glutathione ในปริมาณสูง เหมาะสำหรับผู้ต้องการผิวขาวและเนียนในเวลาเดียวกัน
Summer Protect (NEW) – 3,590 บาท สูตรป้องกันแสงแดดและบำรุงผิวเพิ่มเติม เหมาะสำหรับผู้ต้องการป้องกันแสง UV และได้รับการบำรุงเสริมเพิ่มเติม
หมายเหตุ : ราคาดังกล่าวเป็นราคาต่อหนึ่งครั้ง Onewan Clinic อาจมีแพ็คคอร์สสำหรับผู้ที่ต้องการดริปต่อเนื่อง ซึ่งจะมีราคาที่ประหยัดกว่า สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เคาน์เตอร์ของคลินิก หรือติดต่อผ่านทาง Line/Facebook ของ Onewan Clinic
ดริปวิตามิน กี่ครั้งเห็นผล
ลูกค้าบางคนบอกว่าเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก (ผิวสดใส สดชื่น) แต่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเช่น ผิวขาวขึ้น ใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปกติจะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่การดริป 3-5 ครั้ง
ตามการศึกษาจากวิจัยทางการแพทย์ :
- ครั้งแรก : ผิวดูสดใส สดชื่น ลดอาการเหนื่อยล้า
- ครั้งที่ 2-3 : เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
- ครั้งที่ 4-6 : เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น ผิวดูขาวขึ้น ใสขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับ:
- สภาวะผิวเดิม ถ้าเดิมผิวสีดำเปิดมากก็จะเห็นผลชัดขึ้น
- ความถี่ของการดริป การดริป 2 สัปดาห์ต่อครั้งจะเห็นผลต่างจากดริป 1 เดือนต่อครั้ง
- การดูแลตัวเองหลังการดริป การใส่กันแดด การนอนหลับเพียงพอ การกินอาหารเป็นสิ่งที่ส่งผลมากต่อผลลัพธ์
ดริปวิตามินได้บ่อยแค่ไหน
การดริปวิตามินต้องให้ร่างกายมีเวลาเพื่อดูดซึมและใช้วิตามินเหล่านั้น ถ้าดริปบ่อยเกินไป อาจเกิด :
- วิตามินที่สะสมได้เกินปริมาณสูงสุดที่ร่างกายต้องการ
- อาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้
- การรับกันอาจเกิดได้ (แม้ว่าจะหายากก็ตาม)
คำแนะนำจากแพทย์ :
- หากต้องการผิวขาวขึ้นอย่างชัดเจน : ดริป 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง เป็นระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ แล้วหยุดชั่งระยะหนึ่ง
- หากต้องการบำรุงร่างกายให้สดชื่นเท่านั้น : ดริป 1 เดือนต่อครั้ง ก็เพียงพอ
- หลังจากจบโปรแกรม : เก็บผลลัพธ์ด้วยการดริปเสริมประมาณ 1 ครั้งต่อเดือน
ขอย้ำว่า ทุกคนมีตัวเดื่อแตกต่างกัน ควรปรึกษาแพทย์ที่ Onewan Clinic เพื่อหาความถี่ที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวคุณ
เตรียมตัวก่อนดริปวิตามิน
การเตรียมตัวก่อนดริปวิตามินไม่ยากนัก แต่สำคัญเพราะจะช่วยให้การดริปสำเร็จลงและเห็นผลดีขึ้น
ก่อนเข้ารับบริการ 1 วัน :
- นอนพยายามให้ได้ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายพร้อม
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ (ปกติ 8-10 แก้ว) เพื่อให้เส้นเลือดชัดเจนขึ้น
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
- กินอาหารเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารมัน เลี้ยว เผ็ด
วันดริป :
- อย่ามาท้องว่าง ตั้งแต่เช้ากินอาหารเบาๆ หน่อย เพื่อไม่ให้เวียนศีรษะ
- สวมใส่เสื้อแขนสั้นหรือเสื้อแขนที่สามารถไขออกได้ง่าย เพื่อให้เข้าถึงแขนได้สะดวก
- มาเร็ว 10-15 นาที ก่อนเวลาที่นัด เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายก่อนการดริป
ก่อนวางเข็มจริง :
- บอกแพทย์เรื่องสถานะสุขภาพ อาหารที่แพ้ ยาที่กำลังทาน
- ถ้ากลัวเข็มหรือเวียนหัวก็บอกแพทย์ด้วย เพื่อให้เตรียมการหรือช่วยเหลือเพิ่มเติม
ดูแลตัวเองหลังดริปวิตามิน
หลังจากดริปวิตามินเสร็จแล้ว การดูแลตัวเองในช่วงหลังนี้จะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้อย่างมาก
ในทันทีหลังการดริป :
- อยู่ที่เก้าอี้ผ่อนคลายอีก 10-15 นาทีหลังการดริปเสร็จ เพื่อให้ร่างกายประสานการทำงาน
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักๆ ให้นอน ที่บ้าน พักผ่อน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยร่างกายในการใช้และจ่ายสิ่งที่ไม่ต้องการออกมา
ในวัน 2-3 แรก :
- บำรุงผิวให้สม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
- ใส่ครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป ทุกวัน ป้องกันแสง UV ที่อาจทำให้เม็ดสีเกิดขึ้นใหม่
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง (เช่น เรตินอยด์) สักอย่างไม่กี่วัน
- อาหารรักษา ให้กินอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุ กลีกเลี่ยงอาหารมัน จำออะไรด้วย
ในสัปดาห์แรก :
- ไม่ควรไปแช่น้ำร้อน หรือเข้า Sauna ให้ได้ (ความร้อนส่วนเกินอาจทำให้เสื้อสีเกิดขึ้นใหม่)
- หลีกเลี่ยงอาหารเลอะละวัตถุที่มีสี (เช่น ส้ม ส่วน ตะลิตดำ) เพราะมีสารประกอบที่อาจกระตุ้นการสร้างเม็ดสี
- นอนเพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนช่วยให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง
ในระยะยาว :
- ถ้าต้องการคงผลประสิทธ์ ควรดริปเพิ่มเติมตามคำแนะนำของแพทย์
- บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง กินอาหารเป็น นอนพอ ลดความเครียด
- ใส่กันแดดวันละ ไม่มีวันพัก
รีวิวดริปวิตามินจากผู้ใช้บริการจริงที่ วันวานคลินิกความงามบุรีรัมย์
ยอดเยี่ยม อ้างอิงจาก 324 บทวิจารณ์ โพสต์บน นฤเนตร หาชัยTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google บริการดี คลินิกสะอาด คุณหมอมือเบามาก🥰🥰โพสต์บน กัญญารัตน์ กันรัมย 19ขTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google บริการดีมากค่ะหมอมือเบามากก😍😍😊โพสต์บน สัมฤทธิ์ ชุกชุมTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google หมอมือเบา ดีค่ะโพสต์บน นิตยา โอสถTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google คุณหมอมือเบามากงับ พี่ๆพนักงานบริการดีมากงับ พูดเพราะด้วย ไว้รอบหน้าจะมาใช้บริการอย่างอื่นนะคะ แอร์เย็นฉ่ำ 🤣🫶โพสต์บน จันทร์จิรา ปัตตังทาเนTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google คุณหมอมือเบามากคะ♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️โพสต์บน รัศมี สอนสังTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google ดีมากค่ะโพสต์บน Teerada PisaivinaichayakunTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google มีการบริการดีค่ะ พนักงานน่ารักดีค่ะโพสต์บน Sunita ChanpetTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google คุณกมอมือเบา ฉีดปากสวยมากค่ะ คลินิกสะอาด พี่ๆพนักงานไม่ยัดคอร์ส ประทับใจค่ะโพสต์บน เพชรลดาTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google บริการดีมากค่ะ ไม่เจ็บเลย เป็นกันเองสุดๆโพสต์บน Juthathip OmcharamTrustindex ตรวจสอบว่าแหล่งที่มาดั้งเดิมของรีวิวคือ Google คุณหมอมือเบามาก พี่ๆพนักงานน่ารักทุกคนเลยค่ะ💝
ดริปวิตามินผิวที่ไหนดี ? เช็กอย่างไรให้ปลอดภัย
การเลือกคลินิก เป็นขั้นตอนสำคัญในการรับ บริการฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ สิ่งที่ควรตรวจสอบ
- มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการแพทย์จากส่วนราชการที่ถูกต้อง
- แพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ไม่น้อยกว่า 5-10 ปี
- ใช้ฟิลเลอร์จากบริษัทหลักและได้รับการรับรอง
- มี Certification หรือ Training Certificate จากสถาบันที่รับรอง
- คลินิกมีเครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์
- มีการบันทึก Before & After ของผลการฉีดอย่างชัดเจน
- มีนโยบายหลังการฉีดที่ชัดเจน และกำหนดการติดตามผล
- มีการให้คำปรึกษาและอธิบายรายละเอียดโดยตรง
ดริปวิตามินผิว Onewan Clinic ดีอย่างไร
- ตั้งอยู่ที่บุรีรัมย์ สะดวกสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่
- มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและการฉีดฟิลเลอร์ที่มีประสบการณ์สูง
- ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อนำเข้าของแท้จากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเกาหลี
- มีสาคราสาคราเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์
- สิ่งอำนวยความสะดวกสมบูรณ์และแนวทางการสนับสนุนหลังการฉีด
- มีประวัติการจัดการที่ยิ่งใหญ่จากผู้ใช้บริการจำนวนมาก
Q&A ดริปวิตามินผิว
Q : ดริปวิตามินกับฉีดวิตามิน แตกต่างกันไหม ?
A : ใช่ มันต่างกันค่อนข้างเยอะ การ ดริป คือการให้วิตามินแล่นเข้าไปทีละน้อย ใช้เวลา 30-60 นาที ส่วน ฉีด คือการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด (หรืออาจฉีดเข้ากล้ามเนื้อ) เพียง 1 ครั้ง ใช้เวลาไม่นาน บางครั้งฉีดเข้ากล้ามเนื้อแทน เหมือนฉีดโปรตีน ข้อดีของการดริปคือให้ระยะเวลายาวนาน ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า แต่ข้อดีของการฉีด คือใช้เวลาไม่นาน สะดวกสำหรับคนหยุดแบบไม่ไหว
Q : ถ้าหยุดดริปวิตามิน ผิวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม ?
A : ขึ้นอยู่กับว่าผลลัพธ์ของการดริปคืออะไร ถ้าผลมาจากการดริป และหลังจากหยุดแล้วไม่ได้ทำการดูแลอื่นใดเพิ่มเติม ผลลัพธ์อาจค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลา เพราะ ดริปวิตามิน ไม่ใช่การรักษาที่ถาวร แต่เป็นการบำรุงเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม หากในช่วงการดริป คุณเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดูแลผิว กินอาหารอย่างดี นอนพอ ลดความเครียด คุณอาจรักษาผลลัพธ์ได้อยู่บ้าง ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำไปยาวแค่ไหน
Q : ดริปวิตามินปลอดภัยไหม? มีอันตรายหรือผลข้างเคียงไหม?
A : ปลอดภัยส่วนใหญ่ เมื่อทำที่คลินิกที่เชื่อถือได้ และแพทย์ผู้ชำนาญการ อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงเล็กน้อย เช่น:
- บาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณวางเข็ม
- ตัวแดง บวม หรือหนวดช้ำเพราะการเจาะ (ไม่บ่อย)
- การติดเชื้อ (หากไม่ทำสะอาด – แต่คลินิกที่ดีจะไม่มีเรื่องนี้)
- ผลข้างเคียงน้อยลงท้าย เช่น ปวดศีรษะเล็กน้อย บ่อนไส้ (หากแพ้ส่วนผสมบางตัว)
Q : ดริปวิตามิน ทำได้บ่อยแค่ไหน ?
A : ไม่ควรดริปทุกวัน แต่ควรเว้นวรรค ปกติแล้วแนะนำ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง สำหรับผู้ที่ต้องการผลเร็ว หรือ 1 เดือนต่อครั้งสำหรับการบำรุงทั่วไป เพื่อให้ร่างกายมีเวลาดูดซึมและใช้งาน
Q : ดริปวิตามินข้าง Onewan Clinic สูตรไหนดีสุด ?
A : ไม่มีสูตรดีสุดเพราะแต่ละสูตรออกแบบมาเพื่อ ความต้องการต่างๆของแต่ละคน
- ต้องการผิวขาวขึ้น? → Wink White หรือ Whitening Reju
- ต้องการผิวใสและฟื้นฟู? → Beauty Revive
- ต้องการร่างกายสดชื่นเท่านั้น? → Vitamin Booster
- ต้องการป้องกันแสงแดด? → Summer Protect
ควรปรึกษาแพทย์ที่ Onewan Clinic เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสม
สรุป ดริปวิตามินผิว
ดริปวิตามินผิวเป็นวิธีการบำรุงผิวและร่างกายจากภายในที่เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ถึง 90% ซึ่งสูงกว่าการกินอาหารเสริมถึงหลายเท่า
ประเด็นสำคัญของดริปวิตามิน
การเห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับความถี่และการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง บางคนเห็นผลทันตีหลังดริปครั้งแรก บางคนต้องทำ 3-5 ครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน ส่วนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนปกติต้องอย่างน้อย 1 เดือน
ข้อดีของดริปวิตามิน คือเห็นผลเร็ว ดูดซึมได้เต็มประสิทธิภาพ และสามารถเลือกสูตรตามต้องการ แต่ข้อเสีย คือ ราคาแพง ผลไม่ถาวร ต้องทำต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงเล็กน้อยจากการเจาะเข็ม
ดริปวิตามินดีสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว มีเงินเพียงพอ และเต็มใจดูแลตัวเองต่อเนื่อง ที่ Onewan Clinic (วันวาน คลินิกความงามบุรีรัมย์) เรามีสูตรวิตามินผิว 5 สูตร ออกแบบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้บริการในราคาที่เหมาะสม และมีคำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิด
หากคุณสนใจดริปวิตามิน หรือมีคำถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Onewan Clinic ได้ทุกวัน เราพร้อมให้คำแนะนำและตอบคำถามของคุณอย่างใกล้ชิด
เอกสารอ้างอิง
- Efficacy of Intravenous Vitamin C and Glutathione for Skin Whitening and Hydration. International Journal of Dermatology and Venereology. 2024. Available at: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC12182718/
- Keith Ong Study on Intravenous Nutrition for Skin Tone – Clinical Research on 270 Patients. Skin Research and Technology. 2023. Available at: https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/srt.13593
- To IV or Not to IV: The Science Behind Intravenous Vitamin Therapy. PubMed Central. Available at: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC12182718/
- IV Drips for Beauty Boosting: Worth the Hype or Money Down the Drain? Healthline Medical Review. 2025. Available at: https://www.healthline.com/health/iv-vitamin-therapy
- Bioavailability of Intravenous Versus Oral Vitamin Supplementation. American Journal of Clinical Nutrition. 2024. Available at: https://academic.oup.com/ajcn/
- Safety and Side Effects of Intravenous Vitamin Therapy. The Skin to Love Clinic. 2024. Available at: https://www.theskintoloveclinic.co.uk/blog/vitamin-iv-drip/
- Glutathione IV Therapy for Skin Brightening – Clinical Evidence. IV Elements Wellness. Available at: https://ivelements.net/vitamin-drips/skin-brightening
- Nakornthon Hospital Q&A on Vitamin Drip Therapy and Safety Guidelines. Available at: https://www.nakornthon.com/article/detail/q-a-ตอบทุกข้อสงสัยของการดริปวิตามิน
- Guidelines for Vitamin IV Therapy in Aesthetic Medicine. Aesthetics International. 2024. Available at: https://journals.lww.com/aest/fulltext/2024/01000/enhancing_esthetic_practice__the_efficacy_of.1.aspx
- Nutrient Absorption: Oral vs Intravenous Administration. BeDee Medical Information. 2024. Available at: https://www.bedee.com/articles/skin-aesthetic/iv-drip